“เกียรติธนาขนส่ง” รุกธุรกิจเต็มสูบหลังวิกฤติโควิด ผนึกการรถไฟฯ เปิดจุดยุทธศาสตร์ขนส่งภาคอีสาน ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน ขยายธุรกิจสู่ราง เข้าใช้สถานีขนถ่ายสินค้า เล็งสยายปีกเจาะตลาดใหม่ดึงขนส่งทางรถไฟ กลยุทธ์ใหม่เพื่อชิงเม็ดเงินจากตลาดขนส่งรถบรรทุก พร้อม ดึง “วีนิไทย” ประเดิมเส้นทางโคราช-มาบตาพุด มั่นใจรายได้เติบโตทะลุเป้า 15%

“เกียรติธนา”ลุยธุรกิจเชิงรุกเต็บสูบหลังวิกฤติโควิด เปิดความร่วมมือกับการรถไฟฯ เข้าใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่สถานีบ้านกระโดน ทุ่มทุนกว่า 100 ล้าน รับแผนยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้าทางราง โครงการรถไฟรางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมขนส่งภาคอีสานและเส้นทางระหว่างประเทศ นำร่องดึง  วีนิไทย” เปลี่ยนโหมดสู่ระบบราง ขนส่งวัตถุดิบเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง เล็งปีนี้รายได้รวมโตทะลุเป้า 15% หลังไตรมาสแรกลุยปั๊มแล้ว 247 ล้าน เร่งขยายเส้นทางใหม่ ลูกค้าแห่ติดต่อใช้บริการ

มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง  จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย โดยล่าสุด บริษัทประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต

ที่สำคัญ สถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศ

ความร่วมมือดังกล่าว บริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100  ล้านบาท และนำร่องดึง บริษัท วินีไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช – มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมวางแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรถไฟในเส้นทางอื่นๆ ตามจุดขนส่งสำคัญๆทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดตัว บริษัท เคที เทรน จำกัด (บริษัทย่อย) โดยถือเป็นบริการใหม่ล่าสุด และคาดหวังว่า

จะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าการขนส่งทางรถไฟเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC – Eastern Economic Corridor) ทั้งมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของราคาที่ต่ำกว่าและปริมาณการขนส่งที่มากกว่าการขนส่งทางรถบรรทุก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ จะถือเป็นผู้ให้บริการการขนส่งอย่างครบวงจรเป็นรายแรกอีกด้วย  

ทั้งนี้ เคยมีการประมาณการณ์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) มีมูลค่าสูงถึง 145,100 -147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบพบว่า  การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่างๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟหรือระบบราง ซึ่งมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว คือ รฟท. ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก ที่เหลือเป็นการขนส่งทางท่อ 8.7% การขนส่งทางน้ำ 8.5% และการขนส่งทางอากาศ 0.01%

“การจับมือกับ รฟท.ถือเป็นการรุกเซกเมนต์บริการขนส่งใหม่อย่างจริงจังและมีโอกาสเติบโตสูงมาก เนื่องจาก รฟท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่หลายสาย จะสามารถสร้างเครือข่ายการขนส่งให้กว้างขวางขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า บริการการขนส่งทางรางจะกลายเป็นแหล่งรายได้มูลค่ามหาศาล โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดต่อเข้ามามากขึ้น  เพื่อเปลี่ยนโหมดมาใช้บริการทางรถไฟ เป็นสัญญาณที่ดีมาก โดยงานนี้คาดจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี”

ขณะที่บริการขนส่งทั่วไปด้วยรถบรรทุกของบริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าหลักและกำลังเจรจาสัญญาใหม่กับลูกค้าอีกหลายราย 

มินตรา ย้ำว่า บริษัทไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ต่างๆ โดยประเมินจากแนวโน้มธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และวัตถุอันตรายครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ครึ่งปีแรกประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 แต่ธุรกิจการขนส่งทั่วไปและขนส่งเคมีภัณฑ์ยังเติบโต ประกอบกับเคมีภัณฑ์บางชนิดเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การขนส่งยังดำเนินการปกติและมีคอนแท็กต์ว่าจ้างการขนส่งระยะยาว 3-10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งขยายฐานการขนส่งเคมีภัณฑ์อันตรายไปต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ซึ่งมีโรงงานและโรงกลั่นเคมีภัณฑ์เกิดขึ้นจำนวนมาก

บริษัทมั่นใจว่า หากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมา (ปี 2562) มีรายได้รวม 955.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.10 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2563  มีรายได้แล้วถึง 247.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.96 ล้านบาท (ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์)

ด้านนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างสถานีหนองแมวกับสถานีบ้านเกาะ จะถูกยกระดับสถานีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์

ขนส่งสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน  เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,968 ล้านบาท เปิดให้บริการในปี 2565 จะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว

ตามแผน รฟท.ตั้งเป้าหมายเร่งพัฒนาสร้างทางคู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า ในพื้นที่ชนบท เมืองและระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (underpass) รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย อนึ่ง บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่อเนื่องและครบวงจร (end-to-end) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เกี่ยวกับคลังสินค้า พิธีการศุลกากรและเอกสาร รวมถึงบริการการจัดการขนส่ง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และกากอุตสาหกรรม เป็นเจ้าของรถกว่า 700 คันที่สร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกสินค้าในแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เน้น หัวใจหลัก คือ นโยบายมุ่งพัฒนาระบบการบริหารงานขนส่งและสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0