Wonderful Memories …KANAZAWA (ตอน2)

Story & Photo by Editorial Staff

ตอนที่ 1 คลิกอ่านได้ที่นี่  http://www.vacationistmag.com/kanazawa/

DSC03362

ปราสาทคานาซาวะ (Kanazawa Castle)

ปราสาทคานาซาวะเป็นหนึ่งในปราสาทเก่าแก่ของญี่ปุ่น สร้างตั้งแต่สมัยเซ็งโกคุในปี 1583 โดย มาเอดะ โทชิอิเอะ (Maeda Toshiie) ลูกน้องคนสนิทของ Toyotomi Hideyoshi ได้ย้ายเข้ามายังเมืองคานาซาวะ จากนั้น ตระกูล Maeda ก็ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในปราสาทคานาซาวะ และปกครองเขตคากะ (Kaga) ซึ่งคือบริเวณอิชิกาวะ (Ishikawa) และ โทะยะมะ (Toyama) ในปัจจุบัน

kanazawa-castle-1896642-1

ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมปราสาทจากไม้ที่สร้างขึ้นหลัง สมัยเมจิ ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังสร้างขึ้นมาโดยไม่ใช้ตะปูเลย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายร้อยปี ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้หลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งเคยถูกใช้เป็นฐานทัพญี่ปุ่นมาก่อน ทำให้อาคารหลายส่วนเสียหายและพังทลายลง ยกเว้นประตูปราสาทอิชิคาว่า (Ishikawa-mon Gate) ที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

Kanazawa Castle 4

ภายในปราสาทจะมีอาคารหลักอยู่ 3 อาคาร คือ หอคอยรูปเพชร (Hishiyagura) โกดังยาว 90 หลา (Gojikken Nagaya) รวมถึงหอคอยป้องกันประตูใกล้เคียง (Hashizumemon Tsuzuki Yagura) ซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากอาคารดั้งเดิมก่อนที่จะถูกไฟไหม้ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสวนแห่งนี้ ในปี 2001 ที่ผ่านมา .

kanazawa castle 1631189_1920

ในส่วนกำแพงของปราสาทสร้างด้วยปูนสีขาวและติดทับด้วยกระเบื้องแผ่นบางๆ จากศึกษาพบว่าก้อนหินที่กำแพงเหล่านี้ถูกสร้างในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน บางก้อนมีอายุกว่า 400 ปี ตัวป้อมปราการมีช่องสำหรับยิงปืนบนกำแพงที่อยู่รอบนอกเพื่อป้องกันตัวปราสาทจากศัตรู แผ่นกระเบื้องหลังคาทำจากตะกั่วสีขาว สวนโดยรอบก็ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม การเดินทาง สามารถเดินมาได้จากสถานีรถไฟคานาซาวะเพียง 5-10นาที หรือ เดิน 5 นาที จากป้ายประจำทางรถบัส Kenrokuen-shita bus stop

KANAZAWA kenroku-en4

สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden)

เป็นสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 11.4 เฮกตาร์ หรือประมาณ 70 กว่าไร่ที่มีความงดงามเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ สวนนี้หาไม่ยากเพราะตั้งอยู่ตรงข้ามกับปราสาทคานาซาวะเลย สวนนี้เป็นสวนสาธารณะที่ติด 1 ในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น คำว่า Kenroku หมายถึง สวนที่มีองค์ประกอบอันงดงาม 6 อย่างได้แก่ มีพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศเงียบสงบ ความลงตัวของความคิดสร้างสรรค์ในการจัดสวนให้เข้ากับธรรมชาต มีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ยาวนานสร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะ มีแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นน้ำพุที่มีแรงดันน้ำภายในสวนจึงมีการสร้างธารน้ำที่ไล่ระดับกัน และทัศนียภาพที่สวยงาม

KANAZAWA kenroku-en1

สำหรับสวนแห่งนี้ประกอบไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาชนิดทั้ง บ่อน้ำ สระน้ำที่สร้างขึ้นมาท่ามกลางธรรมชาติ เรียกว่า Kasumigaike น้ำตกขนาดเล็ก สวนสไตล์ญี่ปุ่น เรือนน้ำชา เอกลักษณ์หนึ่งของสวนคือ ตะเกียงหินรูปร่างคล้ายพิณญี่ปุ่นบริเวณใกล้กับสระน้ำ เรียกว่า โคโตจิ (Kotoji) เป็นโคมไฟหินสองขา มีขานึงอยู่ในน้ำ และอีกขานึงอยู่บนดิน

KANAZAWA kenroku-en2

เมื่อมองไปทางด้านหลังของสระน้ำเเห่งนี้ จะเป็นโรงน้ำชาเก่าแก่ติดสระน้ำ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวเราจะเห็นการสร้างยูคิสึริ หรือเชือกขึงกิ่งไม้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของสวนเค็นโรคุเอ็นและเมืองคานาซาว่า การทำยูคิสึริคือเทคนิคการเพิ่มความแข็งแรงของต้นไม้ เป็นการป้องกันการแตกหักจากการทับถมของหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง การเดินทางมาที่สวนสามารถเดินต่อมาจากปราสาทได้เลย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 (21st Century Museum of Contemporary Art)

ชมปราสาท ชมสวน ต่อกันด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะกันต่อเลย เพราะสถานที่ไม่ไกลกันมากนักสามารถเดินไปมาเชื่อมต่อถึงกันได้ คราแรกที่ผมตั้งใจมาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ ผลงานศิลปะที่ชื่v “Swimming Pool” ของศิลปิน Leandro Erlich นั่นเอง งานศิลปะในห้องกระจกที่ตรงกลางมีสระน้ำขนาดความกว้าง 4 เมตร ความยาว 7 เมตร ถ้าเดินไปใกล้ๆขอบสระจะเห็นเงาของผู้คนอยู่ในน้ำ แต่เหมือนไม่ได้ดำน้ำ ความลับอยู่ที่สระน้ำที่เห็นความจริงคือห้องโล่งที่ทาสีฟ้าคล้ายสระน้ำมีด้านบนเป็นกระจกใส่น้ำลึกประมาณ 10 เมตร เวลาคนมองลงไปก็จะเห็นคนอยู่ในสระ แต่ถ้ามองขึ้นไปจากภายในสระน้ำก็จะเห็นวิวที่แตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล มหัสจรรย์ไหมล่ะ

Kanazawa Japan - June 02, 2017 : Unidentified people visit 21st

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ออกแบบโดย “SEJIMA Kazuyo + NISHIZAWA Ryue / SANAA” สองนักออกแบบผู้มีชื่อเสียงระดับโลกที่รวมตัวกันทำงาน โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ งานแสดงด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะร่วมสมัย และศิลปหัตถกรรม ซึ่งตัวโดมแก้วทรงแก้วของอาคารมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 112.5 เมตร และไม่ได้กำหนดให้มีทางเข้าหลักที่ตายตัว กั้นด้วยกระจกโดยรอบ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง เน้นให้ผู้เข้าชมมีอิสระในการเข้าถึงศิลปะได้โดยไม่จำกัดมุมมองหรือทิศทาง  พร้อมเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ด้านนอกทั้งท้องฟ้าและต้นไม้ได้ ตามคอนเซปต์ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เหมือนกับสวนสาธารณะกลางเมือง” และสามารถสัมผัสชิ้นงานผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่เรามี ดังนั้นคุณจะเห็นบางชิ้นงานเราสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะได้เช่นไปนั่งบนงาน สัมผัสงาน งานนิทรรศการนั้นมีทั้งแบบที่อยู่ถาวรและแบบหมุนเวียนทำให้บางส่วนสามารถเข้าชมได้ฟรี และบางส่วนจำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้การเข้าชม นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยสินค้ากระจุกกระจิกน่ารักๆ มากมาย และมีร้านกาแฟ ที่ทำจากวัสดุท้องถิ่นให้ไปชมลิ้มลองกันอีกด้วย การเดินทางสามารถเดินต่อมาจากสวนหรือปราสาทได้เลยหรือนั่งรถบัสเวียนของคานาซาวะ ป้ายที่อยู่ใกล้ที่สุดคือฮิโรซาก้า ซึ่งเป็นป้ายจอดรถที่ 10 บนเส้นทางของรถบัส

Kanazawa Ohmi-cho market 1

ตลาดโอมิโจ (Omicho Market)

การเดินทางของผมจะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้หากขาดการเดินชมตลาด สำหรับที่คานาซาวะ ตลาดที่ได้รับชื่อว่าเป็นครัวแห่งเมืองคานาซาว่าจากยุคเอโดะ นั่นก็คือตลาดโอมิโจ (Omicho) นั่นเอง เป็นตลาดสดที่ใหญ่และเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ช่วงปี 1721 รวมเวลาเกือบ 300 ปี มีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน และแผงขายอาหารที่เปิดกับอย่างแน่นขนัด ขายสินค้าหลากหลายรูปแบบทั้งอาหารสด อาหารแห้ง วัตถุดิบปรุงอาหาร ผักผลไม้ ผักสดที่มีเฉพาะที่ภูมิภาคนี้อย่างเช่นผักคากะ เป็นต้น

Kanazawa Ohmi-cho market 6

เด็ดสุดก็คงหนีไม่พ้น อาหารทะเลที่จะจับสดๆ จากทะเลมาวันต่อวัน ทั้งหอยนางรม หอยเม่น กุ้งน้ำลึก ปู ขนาดโตๆ มีให้เลือกไปปรุงอาหารหรือปรุงเป็นอาหารทานที่ตลาดได้เลย

Kanazawa Ohmi-cho market 2

โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลของปู ปูที่นี่จะสดและอร่อยมาก อย่างปูคาโนะ (Kano) ได้ชื่อว่าเป็นปูหิมะที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ปูของแท้นั้นสังเกตได้จากจุดสีน้ำเงินเล็กๆ ตรงตัวของปู ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 เยน หากใครมาไม่ควรพลาด

Kanazawa Ohmi-cho market 3

อาหารทะเลอย่างอื่นก็ราคาเริ่มต้นเพียง 100 เยนก็สามารถซื้อหาจับจ่ายได้ การเดินทาง จากสถานีรถไฟคานาซาวะ ทางออกตะวันออก ขึ้นรถบัสลงที่ป้าย Musashigatsuji ก็จะสามารถมองเห็นตลาดได้เลย  ทางเข้าของตลาดมีหลายทาง แต่ที่สังเกตง่ายที่สุดคือทางเข้าที่ติดกับตึก Emuza

Kanazawa Ohmi-cho market 8

คานาซาวะเป็นเมืองที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากโตเกียว หรือทางโอซาก้า และแต่ละสถานที่ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและมีเรื่องราวต่างๆ มากมายผ่านทั้งงานศิลปะหัตถกรรม สถาปัตยกรรม หากการเดินทางของคุณครั้งหน้าไม่ว่าเริ่มจากโซนคันไซ หรือคันโซ ฝากใส่คานาซาวะเข้าไปในแพลนการเดินทางด้วย เพราะหลังจากได้เดินทางแล้วคุณได้เรื่องราวดีๆ เต็มกล่องความทรงจำแน่นอน

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0