When you fall in love : ซากุระที่ จินเฮ เกาหลีใต้ (Jinhae Korea)

Story & Photo by Orawan

คุณเคยเกิดอาการเหล่านี้บ้างหรือเปล่า นั่งอยู่คนเดียวหรือกำลังนั่งรวมอยู่กับใครก็ตาม แล้วจู่ๆก็ยิ้มออกมาโดยไม่มีสาเหตุ ดูเหม่อลอยคล้ายคนกำลังเพ้อฝันเป็นพักๆ ยิ่งเวลาใกล้วันที่จะได้เจอก็จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษไม่มีอะไรสามารถเข้ามาทำร้ายความรู้สึกของคุณได้เลย ถึงแม้จะมีคนทำให้คุณอารมณ์เสียก็ตาม คุณก็จะให้อภัยเขาไปอย่างง่ายดาย โดยไม่เหวี่ยงไม่วีนเลยสักนิด และมีเมื่อเวลาคุณได้เจอก็จะมีอาการของหัวใจที่เต้นเร็วผิดปกติ หายใจไม่ทั่วท้อง และวุ่นวายหันซ้ายหันขวา มองอะไรก็สวยงามไปหมด อาการแบบนี้ของฉันไม่ได้ว่าเกิดกับใครคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดกับสถานที่แห่งนี้ ทางรถไฟสายดอกซากุระ ที่เมืองจินเฮ (Jinhae : 진해구) เมืองจินเฮตั้งอยู่ทางใต้ของจังหวัดคยองซังนัม (Gyeongsangnam) สาธารณรัฐเกาหลีใต้

ในประเทศเกาหลีใต้ เขาเรียกดอกไม้สายพันธุ์เดียวกับซากุระว่า ดอกพ๊อตโกตหรือพ็อตกต ทั่วทั้งเกาหลีมีดอกพ๊อตโกตมากมาย หลายจุด แต่ที่จินเฮแตกต่างจากจุดอื่นๆของเกาหลีตรงที่ ต้นดอกซากุระกว่าหมื่นกว่าแสนต้นของที่นี่ เป็นต้นซากุระที่มาจากประเทศญี่ปุ่นสมัยช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาในประเทศเกาหลี โดยทหารญี่ปุ่นได้มาตั้งฐานทัพเรือที่เมืองจินเฮแห่งนี้ พร้อมกับได้หอบหิ้วเอาต้นซากุระเข้ามาปลูกด้วย แม้จะประวัติศาสตร์จะเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด แต่ใครจะคิดว่า เมื่อห้วงเวลาไปผันผ่านไปแล้ว ซากุระจากแดนปลาดิบทั้งหลายที่เติบโตที่นี่ จะกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่ทั้งคนต่างชาติและคนเกาหลีเองก็แวะมาเยี่ยมชม

ที่เมืองจินเฮ มีเทศกาลชมดอกพอตกตหรือซากุระที่มีชื่อเสียง ที่ชื่อว่า Jinhae Gunhangje Festival (진해군항제) จัดประมาณต้นเดือนเมษายน ของทุกปี สำหรับใครอยากไปชมซากุระที่จินเฮนั่นง่ายดายมาก อันดับแรกถามก่อนว่าคุณเดินทางมาจากทางไหน ถ้ามาจากทางปูซาน มองหารถเมโทรสายสีเขียวเลย จาก Seobu Bus Terminal ซื้อตั๋วแล้วนั่งลั่นลาหลับๆตื่นๆ ไปลงที่สถานี 227 (สาย 2 สถานีที่ 27) สถานีซาซาง (Sasang Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า

แต่ขากลับคนอาจจะแน่นหน่อย ตื่นแต่เช้า ชมแต่เช้า เที่ยวแต่เช้าดีกว่า ส่วนใครที่ตั้งต้นจากเมืองหลวงอย่างกรุงโซลเหมือนกับฉัน ก็เริ่มจากการจองตั๋ว KTX ผ่านทางเว็บไซด์ ก่อนจะไปเปลี่ยนเป็นบัตรที่สถานีโซล แนะนำว่าให้จองขากลับไว้เลยเพราะถ้าเป็นช่วงเทศกาลแล้วล่ะก็คนเยอะจนไม่มีที่นั่งเลย จากกรุงโซลใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงไปถึงปลายทางที่เมืองมาซาน (masan) ก่อนจะไปต่อรถบัสสาย 760 อีกครึ่งชั่วโมงไปถึงสถานีรถไฟจินเฮ(Jinhae Station)  ต่อจากนี้ก็เตรียมลุย เส้นทางสายซากุระแบบเต็มๆของเมืองนี้ได้เลย

แม้ว่าระหว่างที่เดินทางมาจินเฮนั่นจะพบซากุระเต็มสองข้างทางเดินและทางรถผ่านมากมายยั่วยวนใจแค่ไหนแต่พอมาเจอที่บริเวณคลองยอชวาชอน (Yeojwacheon Stream)

คุณก็จะต้องเกิดหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ราวกับตกหลุมรักอีกรอบอย่างแน่นอน ภาพสะพานสีแดงสด พร้อมกับอุโมงค์ดอกซากุระสีชมพูอ่อน สัมผัสได้ถึงละอองแห่งความสุขที่โปรยปรายอยู่ทั่วทั้งบริเวณ ไม่ต่างจากกลีบดอกไม้ที่ลอยละล่องต้องลมอยู่

วิเศษสุดๆ ฉันตะโกนแบบนั้นอยู่ในใจ แม้ว่าบางมุมต้องหลบเลี่ยงผู้คนกว่าร้อยคนที่เดินทางกันไปมาทั่วทั้งบริเวณไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้วิวทิวทัศน์โดยรวมเสียไปเลย ผู้คนโดยรอบถูกความสวยงามของเหล่าดอกไม้กล่อมเกลาให้จิตใจอ่อนโยนลง ใบหน้าหลายคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและความสุข

ตลอดเส้นทางที่เดินไปตามสะพานแต่ละช่วงก็จะมีการตกแต่งประดับประดาเป็นแบบต่างๆเช่น มีรูปร่มบ้าง บางจุดที่เห็นสายไฟระโยงระยางเป็นรูปร่างต่างๆ เตรียมเปิดไฟ Light up ในช่วงกลางคืน ยิ่งเวลามีเทศกาลแบบนี้ทางชาวเมืองก็จะมีการมาออกร้านขายของ อารมณ์คล้ายงานกาชาดของบ้านเรา เพียงแต่จะเป็นอาหาร ของทานเสียส่วนใหญ่ ของใช้มีแทรกบ้างประปรายยิ่งบริเวณใกล้สะพาน เรียกได้ว่าสวรรค์ของคนชอบทานกันเลยทีเดียว

อีกจุดหนึ่งที่คนนิยมเดินทางไปชมและถือเป็นอีกหนี่งไฮไลท์หลักก็คือ บริเวณสถานีรถไฟคยองฮวา (Gyeonghwa Station) ไปไม่ยากเลย จากสถานีรถไฟจินเฮข้ามถนนมาป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถเมล์สาย 107 นั่งประมาณ 15 นาทีก็ถึงล่ะลงที่สถานีคยองฮวาได้เลย ปัจจุบันสถานีนี้ไม่ได้เปิดรับส่งผู้โดยสารเป็นสถานีทางผ่านสำหรับขบวนรถไฟจากจินเฮ ไปยังมาซาน แต่ช่วงเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านนี้เองด้วยความเร็วช่วงจังหวะชะลอรถ แรงลมที่มีไม่มากไม่น้อยก็พัดเอากลีบซากุระที่ร่วงอยูบนพื้นตลอดแนวกว่า 800 เมตรของอุโมงค์ซากุระบริเวณนี้ให้ปลิวลอยกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ

บริเวณนี้เองเป็นจุดที่ซีรีย์หลายต่อหลายเรื่องของเกาหลีเลือกให้เป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำ และคู่รักหลายคนก็นิยมจะมาเดินทางคู่กันไปบนเส้นทางรถไฟแห่งนี้ สำหรับคนไม่มีคู่ก็ไม่ต้องน้อยใจ แค่บรรยากาศตรงหน้าก็สามารถโรแมนติก(คนเดียว)ก็ย่อมได้ นอกจากการเดินชมดอกไม้ที่บานสะพรั่งทั่วเมืองและกิจกรรมออกร้านแล้วยังมีขบวนพาเหรดของทหารเรือ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนนายเรือ (The Naval Academy)

และถ้าใครเดินทางมาช่วงเย็นๆก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจ ทางเมืองมีการจุดดอกไม้ไฟสวยๆ และมี Light up ทั่วทั้งบริเวณงานแล้วยังมีการออกงานขายสินค้าอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ว่ามาช่วงไหนก็มีความสุขได้

**ภาพถ่ายปี 2016

Share This Post:000