หลง (รัก) หน้าฝน

เรื่องโดยทีมงาน Vacationist

ในฤดูฝนยาวไปจนถึงก่อนเข้าฤดูหนาวเช่นนี้ แม้ฝนตกจะทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าไร สำหรับคนเมืองกรุง แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ ธรรมชาติกำลังชุ่มฉ่ำสดชื่น และเป็นช่วงที่เหล่านักล่าทะเลหมอกเตรียมตัวออกไปดื่มด่ำกับความสวยงามของหมอกที่ลอยละเลียดทิวเขากันอย่างเต็มที่ สำหรับที่ท่องเที่ยวหน้าฝน เพื่อไปชมทะเลหมอกและธรรมชาติในหน้าฝนที่ฮอตฮิตติดลมบนของเมืองไทยมีหลายแห่งเลย เก็บกระเป๋าแล้วตามไปสัมผัสความเย็นฉ่ำกันได้เลย

เขาค้อ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สถานที่ท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแรก สำหรับนักล่าทะเลหมอกในช่วงฤดูฝน คือ เขาค้อ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ อาจจะด้วยการเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลมาก จากทางเหนือหรืออีสานก็ไม่ไกลเกิน หลายคนจึงปักหมุดให้ที่นี่วิ่งมาเป็นที่หนึ่งในการชมทะเลหมอกในช่วงฤดูฝน

เส้นทางการท่องเที่ยวเขาค้อ ภูทับเบิกสามารถเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันได้ เขาค้อนั้นขึ้นชื่อเรื่องของทะเลหมอกที่ละเลียดไปกับความเขียวขจีของภูเขา ขณะที่ภูทับเบิกนั้นขึ้นชื่อ เรื่องทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับยอดภูสีเขียว และไร่กะหล่ำปลี ในช่วงฤดูฝนไม่เพียงแต่ช่วงเช้าเท่านั้นที่มีทะเลหมอก ที่นี่มีหมอกเกือบตลอดทั้งวัน อุณหภูมิในช่วงฤดูฝนก็จะเฉลี่ยไม่เกิน 24-28 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่อากาศกำลังสบาย

สถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางนี้ อย่างเช่น วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ที่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่ให้ความรู้สึกสงบยามก้าวเข้าไปภายในวัด และทึ่งกับสถาปัตยกรรมอันสวยงาม ทั้งที่อยู่ภายในและวิวโดยรอบ

จุดเด่นของที่นี่คือ อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 องค์ อุโบสถสีขาวบริสุทธิ์ ด้านบนเป็นพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่สร้างซ้อนกันลงมา 5 องค์ ที่นี่เปิดให้เข้าไปสักการะได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น.

เนื่องจากที่นี่เป็นวัดหรือศาสนสถาน ดังนั้นควรแต่งกายให้สุภาพไม่นุ่งสั้น หรือสวมเสื้อสายเดี่ยวและไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับสถานที่เช่น ตะโกนโหวกเหวก เป็นต้น

จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถชมวิวได้รอบตัว 360 องศา ตั้งอยู่ใน ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จุดนี้เราจะมองเห็นวิวเทือกเขาสลับซับซ้อนที่สวยงาม หากต้องการมาชมทะเลหมอกที่นี่ต้องมาแต่เช้าตรู่ตั้งแต่ 05.30 – 07.00 น. แล้วรอเวลาพระอาทิตย์ขึ้น

ซึ่งเราจะเห็นแสงค่อยพ้นขอบฟ้าระยิบระยับสวยงามมาก มีค่าบำรุงสถานที่ 10 บาทต่อคน พูดถึงภูทับเบิก ภาพของทุ่งกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดต้องเป็นสิ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นแน่ ในช่วงฤดูหนาวจะไม่เห็นทุ่งกะหล่ำปลี แต่ในฤดูฝนเช่นนี้ คุณจะเห็นภาพของทะเลหมอกเลาะละเลียดไปกับไร่กะหล่ำปลี และภาพของชาวเขาที่กำลังเก็บกะหล่ำปลีเป็นภาพที่คุ้นตาเป็นอย่างดี ภูทับเบิกอากาศเย็นตลอดทั้งปี พอๆ กับสามารถเที่ยวได้ทั้งปีทีเดียว
นอกจากนั้นเส้นทางนี้ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น

พระตำหนักเขาค้อ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์การสู้รบในสมัยเป็นสมรภูมิต่อสู้ สุสาน ทปท. สถานที่ฝังศพของนักรบกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ลานหินปุ่มที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน ที่เป็นความงามแบบธรรมชาติที่แปลกตา ฐานอิทธิหรือพิพิธภัณฑ์อาวุธก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวและชมทะเลหมอกที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของเขาค้ออีกด้วย เป็นต้น

เที่ยวน้ำตก ล่องแพ กาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางสายน้ำ ยิ่งในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ ความชุ่มฉ่ำของสายน้ำและความเขียวขจี ของผืนป่าก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบฤดูฝนให้เดินทางไปกาญจนบุรี ที่เที่ยวฤดูฝนที่กาญจนบุรี มีหลายจุดด้วยกันสำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำตก น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคใหญ่ น่าจะเป็นจุดแรกๆ ที่หลายคนเลือกที่จะเดินทางไป ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติไทรโยค สำหรับน้ำตกไทรโยคน้อยนั้นเป็นน้ำตกหินปูน แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ส่วนน้ำตกไทรโยคโหญ่นั้นเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยเหมาะสำหรับการชมความงาม โดยเฉพาะจากจุดชมวิวบนสะพานแขวนไทรโยค หรือบางคนก็เลือกที่จะล่องเรือไปชมน้ำตก

สำหรับการล่องแพหรือพักบนเรือนแพที่กาญจนบุรีเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นิยมเช่นกัน อย่างบริเวณแม่น้ำแควและที่เขื่อนศรีนครินทร์ ก็มีแพหลากหลายรูปแบบทั้งแพสังสรรค์ แพตกปลา และแพท่องเที่ยว เป็นแพใหม่และทันสมัย มีเครื่องนอน อย่างดี และอุปกรณ์อื่น ๆ ก็สะอาดเพียบพร้อม อีกทั้งปัจจุบันบ้านพัก รีสอร์ต ริมน้ำก็มีให้เลือกมากมายสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกริมสายน้ำ หรือจะเอนกายนอนดูดาว รับลมเย็น ตลอดจนอ่านหนังสือสักเล่ม ชมวิวสวยๆ ของหน้าฝน และธรรมชาติสีเขียวได้อย่างเต็มที่ เพลิดเพลินกับการพักร้อนได้จนลืมเวลา

ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
ภูป่าเปาะ อยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย คำว่าภูป่าเปาะ คือภูเขาที่มีป่าไผ่เปาะนั่นเอง ซึ่งไผ่เปาะเป็นไผ่ที่เปราะแตกง่ายตามชื่อ ไผ่ชนิดนี้เป็นไผ่ที่พบได้เยอะในจังหวัดเลย และเป็นที่มาของชื่อภูแห่งนี้ ความสวยงามของภูป่าเปาะอยู่ที่บรรยากาศของจุดชมวิว 360 องศาที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 900 เมตร

มองออกไปจะมองเห็นภูหอ ที่มีลักษณะเป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบ คล้ายกับปล่องภูเขาไฟ ยิ่งหลังฝนตกไม่นานอากาศที่เลยก็ค่อนข้างเย็น ก็ยิ่งทำให้มีหมอกปกคลุมยอดภูมากยิ่งขึ้น เกิดความสวยงามที่หลายคนมักพูดกันว่าคล้ายกันกับภูเขาไฟฟูจิของประเทศญี่ปุ่น

จุดชมวิวของที่นี่ จะมีทั้งหมด 4 จุดโดยแต่ละจุดจะห่างกันราว 200 เมตร บางคนก็ชอบจุดชมวิวแรกเพราะไม่มีอะไรมาบังวิวของภูหอ และมองเห็นได้ใกล้สุด บางคนก็ชอบจุดชมวิวที่ 4 แม้จำเป็นต้องเดินเท้าไต่ความสูงขึ้นไปประมาณ 200 เมตร แต่แลกกับวิว 360 องศาก็ถือว่าคุ้มค่า

หากอากาศเป็นใจ ฟ้าใสที่สามารถเห็นวิวได้อีก 8 สถานที่ด้วยกัน ได้แก่ ภูหินร่องกล้า, ภูหอ, ภูหลวง, ภูกระดึง, ภูผาจิต, ภูผาม่าน, สวนหินผางาม และเขาค้ออีกด้วย ส่วนจุดที่สอง จะเห็นวิวแบบมุมกว้างและเห็นผานางนอนที่เป็นลักษณะคล้ายผู้หญิงนอนอยู่ กับภูเขาอีกลูกที่คล้ายกับผู้ชายกำลังนอนกอดพุงมองภูเขา

ส่วนจุดที่สาม จะเห็นสวนหินผางามและยังเป็นจุดพักรถอีกด้วย ในยามที่หน้าฝน อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ บวกกับวิวทิวทัศน์สีเขียวขจีของแมกไม้สุดลูกหูลูกตา เป็นความสดชื่นที่สวยงามของหน้าฝนจริงๆ

เขาใหญ่ วังน้ำเขียว นครราชสีมา
เขาใหญ่ วังน้ำเขียวเรียกได้ว่าเป็นแหล่งโอโซนใกล้กรุงอันดับต้น ยิ่งหน้าฝน อากาศเย็นสบายแบบนี้ เก็บกระเป๋าแล้วออกไปสูดโอโซนใกล้กรุงกันได้เลย ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็เปลี่ยนบรรยากาศจากป่าคอนกรีตเป็นป่าสีเขียวสด อากาศบริสุทธิ์ให้สูดได้เต็มปอด

เขาใหญ่และวังน้ำเขียวมีที่เที่ยวหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ อย่างเช่นน้ำตกเหวนรก ซึ่งต้องลงบันไดที่สูงชันกว่า 200 ขั้นกว่าจะถึงตัวน้ำตกแต่ความงามที่คุณจะได้รับ สวยงามจนลืมความเหนื่อยทีเดียว หรือเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ หนองผักชี เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติที่สามารถเดินได้อย่างง่าย สองข้างทางเป็นทุ่งหญ้าและป่าไม้ หรือจะไปชมวิวทะเลหมอกและทิวเขาที่ผาเก็บตะวันซึ่งอยู่ที่อำเภอวังน้ำเขียว ติดกับเขาเขียวก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ไฮไลต์อยู่ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปี

นอกจากนั้นเขาใหญ่ วังน้ำเขียวยังมีที่ท่องเที่ยวสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการพักผ่อน ทั้งที่พัก รีสอร์ต ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ตลาดสำหรับจับจ่ายสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นปาลิโอ แหล่งท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เหมือนยกยุโรปมาใกล้แค่เอื้อม หรือถ้าอยากออกกำลังกายด้วยกีฬากอล์ฟ ลองแวะที่ Toscana Valley ดู มีสนามกอล์ฟ ที่พัก รวมไปถึงคลับเฮาส์และร้านอาหาร บรรยากาศสวยงามมาก

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
ปางอุ๋ง มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวของใครหลายคนที่เดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อการพักผ่อนและเข้าถึงธรรมชาติสีเขียว

หลายคนเดินทางมาปางอุ๋ง มักเลือกที่จะพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านหรือกางเต็นท์ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ตื่นเช้ามาชมสายหมอก พร้อมจิบเครื่องดื่มร้อนๆ สักแก้ว

จากนั้นก็นอนอ่านหนังสือสักเล่ม ไปถ่ายรูปสวย หรือออกไปทำกิจกรรมอย่างล่องแพ ตกเย็นก็กลับมาชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ การได้นั่งเล่น นอนเล่นมองฟ้าสีคราม สายน้ำเย็น และสีเขียวของป่าไม้ ถือเป็นการพักผ่อนที่เรียบง่ายแต่มีความสุขไม่น้อย

นอกจากปางอุ๋งแล้วในบริเวณที่ใกล้เคียงก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่างเช่น หมู่บ้านรักไทย หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ในสมัยอดีตเคยเป็นทหารจีนคณะชาติ สถานที่ที่คุณสามารถนอนบ้านดิน จิบไวน์ และชมความงดงามของท้องน้ำ สายหมอกและขุนเขาได้

หรือที่ท่องเที่ยวอย่างทุ่งนาขั้นบันไดบ้านดงนาข้าวสีเขียวขจีที่ปลูกเรียงรายกันเป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน ยาวไปถึงปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้ สีเขียวเป็นธรรมชาติที่บำบัดได้อย่างแท้จริง

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0