New Golden Route via HOKURIKU Part2-Ishikawa

Story & Photo by Orawan

อ่านเรื่องราว ตอนที่ 1 เมืองฟุคุอิ ได้ที่นี่ New Golden Route via HOKURIKU Part1-Fukui ได้ที่นี่

สนุกสุขสันต์ที่ อิชิคะวะ (Ishikawa)
จากสถานีฟุคุอิใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ฉันก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงของจังหวัดอิชิคะวะที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเมืองท่องเที่ยวอย่างชิราคาวาโกะที่หลายคนรู้จักกันดี แต่ครั้งนี้ฉันจะเดินทางไปยังอีกหนึ่งเมืองทางเลือกอย่างเมืองคะงะ (Kaga)

HokurikuArchPassIshi10

เริ่มต้นกันที่สวนผลไม้คะงะ (Kaga Friut Land) ที่ไม่ว่าจะมาช่วงไหนของปี ก็มีผลไม้ให้เก็บได้ตลอด ซึ่งในช่วงที่เราเดินทางไปนั้นเป็นช่วงขององุ่น องุ่นของที่นี่มีทั้งสายพันธุ์ Delaware, BlackOlympia

HokurikuArchPassIshi12

และช่วงปลายปีเช่นนี้นอกจากจะมีองุ่นพันธุ์ Muscat berry A ที่มีค่าบริการเข้าไปเก็บในราคา 1,500 เยนเท่านั้น แต่สามารถกินได้เท่าที่อยากกินแบบไม่อั้น

HokurikuArchPassIshi13

หากมาในช่วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ก็จะเป็นช่วงเวลาของแอปเปิ้ล

HokurikuArchPassIshi16

ซึ่งมีทั้งแอปเปิลแดงพันธุ์ Shusei

HokurikuArchPassIshi15

แอปเปิลเขียวพันธ์ุ O-rin และแอปเปิลพันธ์ุ Fuji ราคาเข้าไปเก็บอยู่ที่ 1,500 เยนต่อท่าน

HokurikuArchPassIshi14

บริเวณร้านค้าจุดเดียวกันกับที่เราซื้อบัตรสำหรับเก้บผลไม้ ก็มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผลไม้ในฟาร์มมาจำหน่ายเพื่อให้เลือกซื้อหากันเป็นของฝากมากมาย

HokurikuArchPassIshi11

เสร็จจากสวนผลไม้ฉันไปกินมื้อกลางวันที่บริเวณช่องเขาคะคุเซ็นเค (Kakusenkei Gorge)

HokurikuArchPassIshi21

ช่องเขาที่มีความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร ล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเห็นภาพของต้นไม้ที่สลับสีเขียว เหลือง ส้ม แดง ตัดกับสีเขียวอมน้ำเงินของสายน้ำ

HokurikuArchPassIshi22

นอกจากนี้ตามทางเดินชมหุบเขายังมีการจัดที่นั่งแบบที่เรียกว่า คะวะโดะโคะ (Kawadoko) ที่สามารถนั่งจิบชาและทานขนมวะงะชิ (Wagashi) โดยแต่ละช่วงของช่องเขามีสะพานสำคัญและสวยงามอย่างเช่นสะพานอะยะโทะริ (Aytori Bridge)

HokurikuArchPassIshi23

และสะพานโคะโระงิ (Korogi Bridge)

HokurikuArchPassIshi24

ส่วนภายในเมืองยะมะนะกะ อนเซ็น (Yamanaka Onsen) ก็มีความเงียบสงบและสวยงาม

HokurikuArchPassIshi25

สำหรับคนที่ชื่นชอบสวนป่าและธรรมชาติแล้วละก็ คุณต้องประทับใจกับวัดนะตะเดระ (Natadera Temple) เป็นแน่

HokurikuArchPassIshi30

อาณาบริเวณของวัดที่รายล้อมไปด้วยภูหินผาและเหล่าต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์

HokurikuArchPassIshi31

ความชุ่มชื้นของที่นี่จะเห็นได้จากมอสที่เกาะเต็มทั่วทั้งบริเวณให้ความเย็นใจและผ่อนคลาย

HokurikuArchPassIshi32

ตลอดทางเดินที่ลัดเลาะไปตามระหว่างอาคาร ภูเขาและสวนจะทำให้คุณรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนั้นยังมีอาคารที่ประดิษฐานรูปสลักไม้ของเจ้าแม่กวนอิม  เจดีย์สามชั้นและสถาปัตยกรรมทางศาสนาอีกหลายจุด

HokurikuArchPassIshi34

ไม่ไกลกับวัดมากนักเราจะเจอพิพิธภัณฑ์รถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น(Motorcar Museum of Japan)

HokurikuArchPassIshi40

เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ภายในอาคาร 3 ชั้นสไตล์ยุโรปสมัยเมจิ บนพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยรถยนต์คลาสสิกกว่า 500 คัน

HokurikuArchPassIshi43

โดดเด่นสุดน่าจะเป็นรถโรลส์รอยซ์คันที่เจ้าหญิงไดอานาเคยประทับเมื่อครั้งเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่น

HokurikuArchPassIshi48

ในแต่ละชั้นก็จะมีรถยนต์ซืึ่งแบ่งเป็นแยกตามยี่ห้อต่างๆ

HokurikuArchPassIshi44

แม้กระทั่งรถบัสคันโตจากลอนดอนก็มีจัดแสดงที่นี่

HokurikuArchPassIshi46

แต่ละคันมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป

HokurikuArchPassIshi45

บางุคันมีการติดทองคำ (เปลว) ทั้งคัน

HokurikuArchPassIshi42

และพิเศษกว่านั้นคือ รถบางคันมีป้ายทะเบียนเดียวกันกับปีที่ผลิต ซึ่งถือได้ว่าหายากยิ่ง เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าแวะมากๆ

HokurikuArchPassIshi47

ดูรถแล้วอดไม่ได้ที่จะทดลองขับรถในประเทศญี่ปุ่น แต่จะขับรถทั้งทีถ้าจะให้พิเศษกว่าครั้งไหนแล้วละก็ แนะนำให้ไปขับเลียบชายฝั่งทะเลกับเส้นทางขับถนนเลียบชายหาดจิริฮะมะ (Chirihama Beach Driveway) ซึ่งเป็นถนนกว้าง 50 เมตรทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตรจากชายหาดอิมะฮะมะสู่ชายหาดจิริฮะนะ

HokurikuArchPassIshi52

ชาดหายแห่งนี้เป็นทรายเนื้อละเอียดและแน่นสามารถรองรับน้ำหนักรถยนต์ขนาดใหญ่ไปจนถึงรถบัสได้เป็นอย่างดีการได้ขับรถกินลมชมวิวบนชายหาดแห่งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษและแปลกใหม่มากทีเดียว

HokurikuArchPassIshi50

สำหรับเราพูดถึงชายหาดและท้องทะเลแล้วอดนึกไม่ได้ถึงเกลือที่ทำมาจากน้ำทะเลที่ฟาร์มเกลือริมชายหาดชิมิซุ (Shimizu) ชื่อ Agehama-style Salt Farm

HokurikuArchPassIshi4

ฟาร์มเกลือที่นี่มีวิธีการทำเกลือแบบดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใครที่เรียกว่า “การทำเกลือสไตล์ Agehama” มีวิธีการคือดึงนำมาจากทะเลสู่ลานทรายแล้วตากแดดจนแห้งกวาดลานทราย

HokurikuArchPassIshi2

แล้วเทน้ำทะเลอีกครั้งก่อนจะต้มน้ำเกลือลงในหม้อขนาดใหญ่ตลอดทั้งคืน

HokurikuArchPassIshi3

ทำให้เกลือทะเลนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากทะเลและมีลักษณะอ่อนนุ่ม รสชาติหวานเล็กน้อย

HokurikuArchPassIshi1

ไม่ไกลจากฟาร์มเกลือ หากมาในช่วงเย็นๆ สามารถชมไลต์อัปที่นาขั้นบันไดริมทะเลของเมืองวาจิมะ (Wajima) ที่ชิโรโยเนะเซนมาอิดะ (Shiroyone Senmaida Rice Terraces) ภาพไร่นาแบบขั้นบันไดกว่า 1,004 ผืน ตั้งลาดชันอยู่ระหว่างทางหลวงและทะเล

HokurikuArchPassIshi6

ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมช่วงฤดูเพาะปลูกก็จะเห็นรวงข้าวสวยงาม แต่ฉันมาในช่วงที่เก็บเกี่ยวไปแล้วแบบนี้ ช่วงค่ำก็จะมีการจัดไลต์อัป (Light Up) ให้ได้ชมความยิ่งใหญ่ของผืนท้องทุ่งที่ตัดกับแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าแทน แต่เราสังเกตเห็น LED ขนาดเล็กปักเต็มทุ่งไปหมด เสียดายที่เรามาเร็วไปนิด และต้องเดินทางต่อ เลยไม่ได้ทันได้เห็นไลด์อัป

HokurikuArchPassIshi5

แต่สำหรับฉันแล้วความยิ่งใหญ่ไหนคงไม่เท่ากับความยิ่งใหญ่ของคิริโกะ (Kiriko) หรือคิริโกะ โดโระ โคมไฟขนาดใหญ่ที่ถูกจุดไฟขึ้น และนำไปแขวนไว้ด้านหน้าศาลเจ้าเพื่อเป็นการนำทางที่พิพิธภัณฑ์โคมไฟคิริโกะ (Wajima Kiriko Art Museum) เมืองวาจิมะ

HokurikuArchPassIshi64

เพราะคิริโกะบางชิ้นนั้นสูงกว่า 10 เมตรและหนักขนาด 100 คนต้องช่วยกันหามเลยทีเดียว

HokurikuArchPassIshi61

และพอเข้ามาจัดแสดงรวมกันแล้ว เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่และความสวยงามของงานฝีมือที่ประดับอยู่ในคิริโกะแต่ละชิ้น

HokurikuArchPassIshi60

ที่พิเศษคือคิริโกะเหล่านี้เป็นคิริโกะที่ใช้จริงในเทศกาลคิริโกะ มัตซึริ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลใหญ่ของภูมิภาคโนโตะ โดยจัดขึ้นทุกปีช่วงฤดูร้อนจนถึงฤดูใบไม้ร่วง หากใครมีโอกาสแนะนำให้ไปชมกันสักครั้งในชีวิต

HokurikuArchPassIshi62

อ่านเรื่องราวตอนที่ 3 เมืองโทยามะ ได้ที่นี่  New Golden Route via HOKURIKU Part3 -Toyama

เดินทางเส้นทาง Hokuriku สะดวกขึ้นด้วย  JR Hokuriku Arch Pass   http://hokuriku-arch-pass.com/Explore_Japan/

ราคาบัตร  https://hokuriku-arch-pass.com/en/

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0