ปราสาทเอดินบะระ Edinburgh Castle

เป็นปราสาทในยุคกลางมีอายุมามากกว่า 1,000 ปี ซึ่งเมื่อก่อนที่บริเวณนี้คือภูเขาไฟปะทุขึ้นเมื่อประมาณ 350 ล้านปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินบะระ ทำให้สามารถเห็นเมืองเอดินบะระ ได้เเบบรอบทิศทางเลยทีเดียว ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สวยและเป็นไฮไลต์หนึ่ง ของการมาเที่ยวสกอตแลนด์ ก่อนหน้านี้เริ่มมาตั้งแต่ยุคกลางสร้างโดยคิงเดวิดที่ 1 ปี ค.ศ. 1124 เป็นที่พำนักของราชวงศ์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1633 ปราสาทเอดินบะระถูกยึดครองโดยราชวงศ์อังกฤษและเปลี่ยนเป็นราชวงศ์สกอตหลายครั้ง จนสุดท้ายได้ถูกเปลี่ยนเป็นป้อมปราการและฐานทัพทหารเพื่อป้องกันการบุกโจมตีของพวกไวกิ้ง จนกระทั่งปี 1814 ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติไป

ในปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ปราสาทได้รับการบูรณะเรื่อยมา จนกลายมาเป็นพระราชวัง เป็นปราสาทที่เเข็งเเกร่งมากที่สุดของโลก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นฐานทัพทางทหารที่สำคัญ ปราสาทเปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นช่วงวันคริสต์มาส 24-26 ธันวาคมของทุกปี ค่าเข้าอยู่ที่ 19.5 ปอนด์ หน้าประตูทางเข้าปราสาท มีรูปปั้น 2 นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งสกอตแลนด์อยู่ซ้ายและขวา

โดยด้านซ้ายคือเซอร์ วิลเลียม วอลเลซ (William Wallace) ผู้ซึ่งปกป้องสกอตแลนด์จากอังกฤษในศตวรรษที่ 13 จากภาพยนตร์เรื่อง Brave Heart ที่เราได้ชมกัน ส่วนขวาคือ Robert the Bruce นักรบที่กู้ปราสาทคืนมาจากอังกฤษในปี 1313 ด้านในแบ่งเป็นส่วนของป้อมปราการ กำแพงปราสาทโบราณ ตรงลานปืนใหญ่ ที่คุณจะเห็น One O’Clock Gun ซึ่งเป็นการยิงปืนใหญ่ทุกวันในเวลา 13.00 น. ตลอด 150 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้สัญญาณบอกเวลาเเก่เรือที่ท่าเรือ Leith ให้ทราบเวลา บริเวณนี้ถือเป็นจุดชมวิวเมืองที่สำคัญด้วย มองไปจะเห็นส่วนของ New Town ได้ทั้งหมด

ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์เยอะแยะมากมายให้เราแวะชม เช่น บริเวณ Scottish National War Museum จะบอกเล่าประวัติความเป็นมาของการสู้รบของทหารสกอต ส่วนของพระราชวัง มีอาคารหลัก 2 หลัง คือ Royal Palace ที่เป็นหอนาฬิกา และ Great Hall ห้องโถงใหญ่ ขนาด 29 x 12.5 ตร.ม. ใช้เป็นห้องจัดเลี้ยงในพิธีการสำคัญต่างๆ จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นก็มีห้องที่สำคัญเช่น The Birth Chamber or Mary Room เป็นสถานที่ประสูติของพระเจ้าเจมส์ที่ 6 พระโอรสของพระนางแมรี ราชินีแห่งสกอต ซึ่งพระองค์เป็นผู้ที่สามารถรวมบัลลังก์อังกฤษและสกอตแลนด์เข้าด้วยกัน เเละอ้างสิทธิ์เหนือสองบัลลังก์ทำให้ทั้งอังกฤษเเละสกอตเเลนด์ รวมกันตั้งเเต่ปี ค.ศ.1603

อีกห้องคือ ห้อง Crown Roomเพราะเป็น ห้องที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สิ่งของศักดิ์สิทธิ์ 3 อย่าง ได้แก่ พระมหาพิชัยมงกุฎ คทา และพระแสงดาบ พร้อมด้วยหินสโคน (Stone of Scone) มีการดูแลป้องกันรักษาเป็นอย่างดี ก่อนจะลงจากปราสาท อย่าลืมแวะซื้อหาของที่ระลึกอย่างเช่น วิสกี้มีหลายขนาดมาก หรือถ้าไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็ซื้อขนม Shortbread ของขึ้นชื่อของที่นี่ก็ย่อมได้

การเดินทาง
ปราสาทตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินบะระ สามารถเดินขึ้นตามทางเดินหิน ขึ้นไปบนเนินได้เลย เพราะปราสาทเเห่งนี้จะไม่มีรถประจำทางหรือ รถรางที่พาขึ้นมา แต่ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถนำขึ้นไปจอดที่ ลานจอดรถที่จัดไว้ให้ได้

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0