Doha.. THE WORLD’S RICHEST CITY

Story & Photo by Kanjana Hongthong

ไม่รู้เป็นกาตาร์รอบที่เท่าไร แต่เป็นรอบที่สองที่ฉันตั้งใจเข้าไปอัปเดตกาตาร์ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรแค่ไหน เพราะได้ข่าวว่ากาตาร์ปี 2019 มีอะไรใหม่ๆ ให้ทำความรู้จักอีกเยอะ นั่นเป็นเหตุผลให้รีบแพ็กกระเป๋าไปอัปเดตกาตาร์

เที่ยวนี้ แสนสบายจริงๆ เพราะซ็นทารา เรสซิเดนซ์แอนด์ สวีท โดฮา โรงแรมแบรนด์ไทยที่เพิ่งไปเปิดในโดฮา ส่งรถตู้แอร์เย็นเฉียบมารับถึงสนามบิน 25 นาทีจากสนามบิน ก็ได้เห็นห้องหับของที่นี่ ยิ่งหูตาเบิกโพลง มีห้องพักให้เลือกหลายแบบตั้งแต่แบบสตูดิโอไปจนถึงเพ้นต์เฮาส์ขนาด 365 ตารางเมตร แต่เห็นวิวทิวทัศน์ที่มองจากห้องเห็นน้ำทะเลสีสดแบบเต็มตา ในโรงแรมมีฟิตเนส และสระว่ายน้ำในร่ม ร้านอาหารที่สวยงาม ข้อสำคัญมีพนักงานคนไทยคอยต้อนรับขับสู้แขกเหรื่อเซ็นทารา เรสซิเดนซ์ แอนด์ สวีท โดฮา เป็นที่พักใจกลางเมืองโดฮาอยู่ในย่านธุรกิจก็จริง แต่มอบความสงบในใจกลางเมือง ได้รับการออกแบบเพื่อให้สะดวกสบายทั้งนักเดินทางและนักธุรกิจ ข้อสำคัญพักที่นี่ จะไปเที่ยวที่ไหนของโดฮาก็ง่ายดาย

แต่มุมหนึ่งที่อยากกลับไปรื้อฟื้นความทรงจำคือวาคิบ ซุคเรียกว่าเป็นแพตเทิร์นของเมืองอาหรับเลยก็ว่าได้ที่เขาจะต้องมีซุค เอาไว้ให้ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยกันวาคิบ ซุคก็เหมือนกัน ตั้งแต่ปากทางเข้าตลาดก็สนุกแล้ว ตลาดนี้มีทั้งคาเฟ่เก๋ๆ แบบอาหรับ

แต่ละร้านจะถูกประดับประดาด้วยผู้คนที่นั่งล้อมวงดูดชิชากันอย่างฉ่ำปอดเดิมทีเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดแห่งนี้เป็นแค่ตลาดนัดวันหยุด เฉพาะแค่ช่วงสุดสัปดาห์ ก็จะมีพวกพ่อค้าชาวเบดูอิน หอบพวกเนื้อสัตว์ นม และขนสัตว์ มาขายกัน จากตลาดเล็กๆ ก็เริ่มขยับขยายจนกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังรักษาบรรยากาศของการค้าขายแบบดั้งเดิมเอาไว้

จนทุกวันนี้ตรอกซอกซอยในวาคิบ ซุค มีเยอะจนนับไม่ถ้วนเยอะขนาดเป็นเขาวงกตทำเอาหลายคนหลงมาแล้ววาคิบ ซุคจะแบ่งออกเป็นโซนๆ ไม่ให้นักท่องเที่ยวสับสน เช่น โซนขายผ้าและเสื้อผ้า โซนขายผลไม้แห้งและเครื่องเทศก็อยู่อีกมุมหนึ่ง โซนขายของที่ระลึกจะอยู่บริเวณรอบนอกตลาด โซนขายอาหารพื้นเมืองอยู่อีกโซนหนึ่ง และพวกคาเฟ่และร้านอาหารหลากสัญชาติก็อยู่ตามริมทางเดินของตลาด

แค่เลือกร้านอาหารก็เมื่อยแล้ว เพราะมีร้านอาหารให้เลือกกว่า 10 ประเทศ วาคิบซุคจึงไม่ได้เป็นแค่แหล่งช้อปชั้นเยี่ยมอย่างเดียว แต่ยังเป็นมุมพักผ่อนหย่อนอารมณ์ของชาวกาตารี่และนักท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกว่าถึงไม่ได้ตั้งใจไปช้อป แค่ไปชิมบรรยากาศตลาดอาหรับกับคาเฟ่ที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นชิชา แค่นี้ก็คุ้มจะตาย แต่ใครจะมาที่นี่ต้องวางแผนให้ดีเชียว เพราะตลาดเขาเปิดช่วง 9 โมงเช้าไปจนถึงประมาณเที่ยง และจะปิดร้านช่วงกลางวัน ไปเปิดอีกทีตอนบ่ายสามบ่ายสี่จากนั้นก็เปิดยาวไปจนถึงเกือบเที่ยงคืน

จากวาคิบ ซุค ถ้าเดินไปฝั่งตรงข้ามเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม ที่มีของเก่าและศิลปวัตถุโบราณจากอิหร่าน อิรัก ตุรกี ซีเรียอัฟกานิสถาน และอียิปต์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 จนถึงช่วงศตวรรษ 17 จำนวนมาก

เรียกว่าถ้ามีใจให้พวกของโบราณเก่าเก็บเป็นทุนเดิมเชื่อเถอะว่าคุณจะขลุกอยู่ที่นี่ได้เป็นวัน ที่นี่ถือว่าเป็นสุดยอดพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าและน่าเที่ยวของกาตาร์ นักท่องเที่ยวบางคนบอกว่านี่คือสัญลักษณ์ของกาตาร์ในทศวรรษนี้เลยด้วยซ้ำพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างอยู่ริมท่าเรืออยู่ทางตอนปลายของอ่าวโดฮา

หาง่ายๆ เพราะอยู่ใกล้กับทางเดินเลียบทะเล แถมอาคารนี้ยังดูโดดเด่นแปลกตา สร้างเสร็จเมื่อตอนปี 2006 แต่กว่าจะตกแต่งภายในอย่างสมบูรณ์ ก็ได้ฤกษ์เปิดให้ผู้คนเข้ามาชมกันเมื่อปลายปี 2008

ตัวอาคารถือว่าเป็นตึกที่สร้างอย่างโดดเด่น ด้วยแนวคิดของผู้ออกแบบอย่างไอ.เอ็ม.ไพ ที่อยากให้เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกกับแบบอย่างของศาสนาอิสลามเข้าด้วยกันพูดถึงสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารนี้อย่างไอ.เอ็ม.ไพ เขาเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบพีระมิดให้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในฝรั่งเศสนั่นเอง

อาจจะดูเหมือนไม่ซับซ้อน แต่เขาบอกว่านี่คืองานชิ้นยากที่สุดชิ้นหนึ่งของเขาเลยทีเดียว เขาใช้ชีวิตในบั้นปลายเดินทางเรียนรู้สถาปัตยกรรมในโลกอิสลาม และลงมือออกแบบพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดยได้แรงบันดาลใจจากมัสยิดไอบินตูลุนในอียิปต์และพระราชวังอัล ฮัมบราในสเปน

นักท่องพิพิธภัณฑ์หลายคนบอกว่า นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในแถบอาหรับเลยก็ว่าได้เพราะเก็บรวบรวมข้าวของอันมีค่า ผลงานศิลปะของประเทศในแถบอาหรับเอาไว้เยอะอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นพวกงานเซรามิกสิ่งทอ พรมเก่าแก่ กระเบื้องเครื่องเคลือบ งานฝีมือ ไม่เว้นแม้แต่ถ้วยชามรามไหนอกจากนี้ ยังมีของสะสมของราชวงศ์ของกาตาร์ในสมัยก่อนด้วย ทั้งพวกจิวเวลรีเครื่องเงินเครื่องทอง งานไม้แกะสลักชั้นดีเครื่องแก้ว

และบางชิ้นเป็นผ้าไหมทอมืออายุกว่า 600 ปี พวกของโบราณจากซีเรีย ตุรกีและอียิปต์เองก็ถูกเก็บอยู่ที่นี่อย่างหนาตาบางมุมเรียกเสียงฮือฮาให้ผู้เข้าชมได้ไม่ใช่น้อยเพราะมุมนั้นเป็นชุดนักรบโบราณนั่งบนหลังม้าที่จัดว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุดแห่งหนึ่ง

เฉพาะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่ด้านในเก็บรวบรวมของโบราณเก่าแก่เอาไว้ในอาคาร 3-4 ชั้น ก็ขลุกอยู่ได้เป็นวันแล้ว แถมบางโซนเขาจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่โชว์ผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังจากต่างประเทศ มาที่นี่แล้วอย่าเพิ่งรีบร้อนไปไหน เพราะด้านข้างของตัวอาคารเขาทำเป็นมุมนั่งเล่นที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของโดฮาได้อย่างสวยงาม มุมหนึ่งจะเป็นตึกสูงระฟ้าเลื้อยไล่กันราวกับว่านี่คือเกาะแมนฮัตตันของดินแดนอาหรับ คนแถวนั้นเขาคงพูดถึงแต่เรื่องตลาดหุ้น เจรจากันเรื่องธุรกิจการค้าและราคาน้ำมัน มากกว่าเรื่องอื่น

ถ้าทอดสายตาลงมองในอ่าวโดก็จะเห็นเรือโดว์ ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นแบบอาหรับจอดระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ทุกวันนี้ผู้คนก็ยังใช้เรือนี้สัญจรอยู่ แต่ใครที่ไปโดฮาใน พ.ศ.นี้ ล้วนแต่อยากเห็น National Museum of Qatar กันทั้งนั้น

นี่คือดาวเด่นแห่งประเทศอาหรับในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ตัวพิพิธภัณฑ์ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 8 ปี และเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เองเรียกว่า สดๆ ร้อนๆ เลยก็ว่าได้ข้อสำคัญตัวอาคารอวดสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น

โดยมี ฌอง นูแวล สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ เขาได้แรงบันดาลใจมาจากกุหลาบทะเลทราย ที่พบเจอในทะเลทรายกาตาร์เยอะ โดยใช้แผ่นกลมๆ 539 แผ่นมาทำเป็นทั้งฐานและรับน้ำหนักตัวอาคารที่รูปทรงประหลาดตาเรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนประเทศกาตาร์และผู้คนทั่วโลกต่างรอคอยแค่ด้านนอกว่าอะเมซิ่งแล้ว

พอเข้าไปด้านในยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีห้องหับกว่า 10 ห้อง มีทางเดินเชื่อมแต่ละห้องเข้าด้วยกัน มีการฉายหนังสั้นลงบนผนังทุกด้าน ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและมีความเคลื่อนไหว กลายเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตเรื่องราวที่พิพิธภัณฑ์นำมาแสดง บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกาตาร์

ตั้งแต่ครั้งอดีตที่มีสัตว์หน้าตาแปลกๆ รวมถึง Oryx สัตว์ตระกูลเดียวกับกวางที่เป็นสัตว์ประจำชาติของกาตาร์ ยังมีเรื่องราวในทะเลทราย การเดินเรือหาปลาและงมไข่มุก ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวกาตาร์มากว่าพันปี

จนมาถึงยุคที่กาตาร์เจอน้ำมัน ที่ทำให้เป็นอีกประเทศหนึ่งในแถบอ่าวเปอร์เซียที่ร่ำรวยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติถือว่ามีเยอะขนาดเป็นท็อปทรีของโลกรองจากรัสเซียและอิหร่านเลยก็ว่าได้

ซึ่งความมั่งคั่งของกาตาร์ก็สะท้อนได้จากตัวเลขรายได้ของประชากรต่อหัว ที่ถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มอาหรับสมัยก่อนกาตาร์ก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นในย่านนี้ เขาก็หามุกหาปลา ทำอาชีพประมงกันซะเป็นส่วนใหญ่

แต่เมื่อ 70 กว่าปีที่ผ่านมานี้เองที่เมื่อค้นพบบ่อน้ำมัน เขาเลยหันมาใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาเป็นตัวผลักดันขับเคลื่อนเร่งรัดพัฒนาประเทศ สูตรเดียวกับพวกสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และชนชาติอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง ที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันพูดเลยว่า ที่นี่เป็นสุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องพิพิธภัณฑ์ไม่ควรพลาด และทำให้โดฮาเลอค่าน่าทำความรู้จักขึ้นมาทันตา

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดของเซ็นทารา เรสซิเดนซ์แอนด์ สวีท โดฮา ที่ www.centarahotelsresorts.com/th/ หรือโทร. 0 2101 1234
คนไทยไปเที่ยวกาตาร์ไม่ต้องทำวีซ่า สามารถเข้าไปเที่ยวได้เลย

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0