ปั่น – ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ธุรกิจนำเที่ยวยั่งยืนได้ หากรู้จักปรับตัว

Story by บุญชัย เลิศวิทยาประดิษฐ์ / Photo by กิตติมา ไชยสังข์, ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว

วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว เราก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว และนั่นไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้น เรียกว่า เกือบทุกธุรกิจบนโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ภาพของผู้ชายตัวเล็ก รูปร่างสันทัด สวมแว่นตา มีทรงผมแปลกตา ที่ชื่อ “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ได้ถูกจดจำว่า เป็นนักแสดง และนักร้องแนวเพลงป๊อป-แจ๊ส ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในยุคสมัยหนึ่ง ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่า จริงๆ แล้ว ผู้ชายคนนี้ มีดีมากกว่าภาพที่ปรากฏให้เราท่านเห็นทางหน้าจอโทรทัศน์ หรือเวทีคอนเสิร์ต

Khun Pan 2

ภาพการพูดคุยเป็นภาษาสเปน และภาษาอังกฤษ กับคู่มิตรทางธุรกิจต่างชาติ และความเอาจริงเอาจัง ในการทำงานอยู่ภายในบริษัท เอฟวีนิว อินเตอร์ แทรเวิล กรุ๊ป จำกัด หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า เอฟวีนิว ทัวร์ (Avenue Tour) เป็นภาพที่น้อยคนนักจะได้รู้ว่า นี่คืองานหลักของ “คุณปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ในฐานะผู้อำนวยการทัวร์ และผู้บริหารคนสำคัญของบริษัทฯ ที่ตั้งใจทำงานเพื่อให้เกิดการบริการด้านการนำเที่ยวที่ดีที่สุดกับลูกค้าทุกคน นักร้องคนดังเจ้าของตำนานเพลงรัก เล่าย้อนกลับไปถึงจุดแรกของการก้าวเดินเข้ามาสู่ธุรกิจนำเที่ยวที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องพบกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในธุรกิจ “จุดแรกที่ทำให้ผมก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ เป็นเพราะพี่ชายของผมซึ่งเขาเรียนจบจากสเปน แล้วกลับมาตั้งบริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะการนำคนสเปนเข้ามา ท่องเที่ยวในประเทศไทย ตอนนั้นมีคนสเปนเข้ามาท่องเที่ยว จำนวนมาก ขณะที่คนไทยที่พอพูดภาษาสเปนได้ ก็มีน้อย” เสียงที่สื่อให้เห็นถึงความสุข และใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อคุณปั่นเล่าถึงเรื่องราวในอดีต

Khun Pan 8

จุดเปลี่ยนชีวิต
“หลังจากที่ผมเรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และได้เข้าทำงานอยู่ในฝ่ายสวัสดิการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมถึงการเล่นดนตรีด้วย ทำให้พี่ชายมองว่า ผมทำงานหนักมากไปหรือเปล่า ก็เลยชวนไปสเปน เพื่อเรียนรู้ภาษาสเปน แล้วจะได้มาช่วยงานในบริษัททัวร์ของพี่ชาย ซึ่งผมก็รับปาก และไปตามคำชวนของพี่ชาย ก่อนที่จะกลับมาช่วยงานในบริษัททัวร์อย่างที่ตั้งใจ แต่พอทำงานกับพี่ชายไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง มีงานร้องเพลง และงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีงานเข้ามาเยอะ ทำให้ผมทำงานในบริษัททัวร์ของพี่ชายได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก และรู้สึกเกรงใจพี่ชาย จึงขอหยุดการทำทัวร์ แล้วมุ่งมั่นในการร้องเพลง และงานด้านแสดงอย่างเต็มที่เรื่อยมา”

เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้ชายหนุ่มที่ชื่อ “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” ยังคงต้องก้าวเดินไปบนเส้นทางธุรกิจนำเที่ยวต่อไป เมื่อมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงในธุรกิจนำเที่ยวติดต่อมาหาเขา “ระหว่างที่หยุดงานทัวร์ของพี่ชาย ผมก็ร้องเพลงอย่างเดียวมาตลอด กระทั่งวันที่ผมได้รับการติดต่อจากน้องเจี๊ยบ – ศิริฐา สุทธาศวิน และน้องโอ่ง – อรรถวุฒิ์ สุทธาศวิน จาก เอฟวีนิว ทัวร์ ซึ่งกำลังมีทัวร์ไปสเปน และต้องการไกด์ที่รู้จักสเปนเป็นอย่างดี โดยเขาได้รับคำแนะนำมาจากทางสถานทูตสเปน ที่คุ้นเคยกับผมเป็นอย่างดี และก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมได้กลับคืนสู่ธุรกิจนำเที่ยว และเริ่มต้นการทำงานในธุรกิจนี้อย่างจริงจังอีกครั้ง”

Khun Pan 3

“ก่อนทำธุรกิจด้วยกัน ผมแอบกระซิบบอกน้องๆ ไปครับว่า ขอให้พี่มีโอกาสทำทัวร์ แล้วก็ร้องเพลงด้วยได้ไหม” นักร้องหนุ่มใหญ่หัวเราะ “พอน้องเขาตกลง ผมก็เลยรับปากทำธุรกิจร่วมกันนับแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ ในฐานะหุ้นส่วนคนหนึ่ง ของธุรกิจแห่งนี้ ซึ่งผมก็ไม่อยากเชื่อว่า จะเดินทางอยู่ในธุรกิจนี้มานานถึง 20 ปีแล้ว และจะยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร”

“จริงๆ แล้วการทำงานทัวร์ก็ตรงกับนิสัยผมครับ คือผมเป็นคนชอบเที่ยว อยากรู้อยากเห็น ชอบลอง ชอบเรียนรู้เรื่องต่างๆ การรู้จักคน พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คน ทำให้รู้จักอะไรต่างๆ มากมาย และจริงๆ แล้วการที่ผมได้มาอยู่ในวงการธุรกิจทัวร์ได้ก็ต้องขอขอบคุณพี่ชายผม คุณณรงค์ เขียวแก้ว บริษัท Travex และ น้องเจี๊ยบ น้องโอ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท Avenue ซึ่งเราก็ทำงานดูแลช่วยเหลือกัน ต้องขอบคุณพวกเขามากๆ ครับ”

Khun Pan 7

ธุรกิจนำเที่ยว ไม่ง่ายอย่างที่คิด
แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในธุรกิจนำเที่ยว เข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละราย รู้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในธุรกิจ ทว่า คุณปั่นก็พูดจากหัวใจจริงว่า “ธุรกิจนำเที่ยว ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เป็นงานบริการที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะต้องทำงานกับคนที่มีจิตใจ และพื้นฐานความรู้ หรืออะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน คนไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้ เพียงแค่กดปุ่ม จริงๆ ทำงานกับคน เป็นสิ่งที่ยากพอสมควร ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาในแบบฉบับของผมก็คงจะต้องมีการพูดคุย หรือสัญญากันไว้ก่อนว่า เราไม่ได้ทำงานให้ใครคนเดียวนะ เรามาเป็นกรุ๊ป เราก็ควรจะทำอะไรที่เป็นกลางๆ ไว้ เช่นเดียวกับการเลือกร้านอาหาร เราจะเลือกร้านอาหารที่ดีที่สุด แต่ถ้าเจอร้านที่มีข้อบกพร่อง เราก็จะบอกให้เอเย่นต์ในแต่ละประเทศให้หาร้านที่ดีกว่าให้”

“นั่นเป็นสิ่งที่คนในธุรกิจรู้ และปฏิบัติกันมาเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีสุดกับลูกค้า แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วบริษัททัวร์ จะมีชื่อเสียง หรือยืนอยู่ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคนคนเดียว คือ ไกด์ ซึ่งหากเขาพูดไม่ดี ดูแลลูกค้าไม่ดี ลูกค้าก็คงไม่ใช้บริการบริษัททัวร์นั้นอีกแน่ และนอกจากไกด์แล้ว การทำทัวร์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์เท่านั้น อย่างการซื้อตั๋ว เราก็ต้องซื้อ กับแอร์ไลน์ จะถูก จะแพง จะบินตรงหรือไม่ ก็อยู่กับแอร์ไลน์ ดังนั้น การทำทัวร์จึงดูเหมือนง่าย แต่หากได้ทำจริง ก็จะรู้ว่า เป็นเรื่องยาก เพราะเราไม่ได้มีเครื่องมือเหล่านี้เลย ยังคงต้องพึ่งพาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง” น้ำเสียงของคุณปั่นที่เล่าให้ฟัง ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ธุรกิจนี้ทำยากจริงๆ “เช่นเดียวกับร้านอาหาร เราไม่สามารถควบคุมได้เลยว่าวันนี้อาหารแต่ละเมนู จะมีรสชาติเหมือนกัน ทุกครั้งหรือไม่ อย่างวันนี้อาจจะเค็มไป อีกวันจืดไป เราคุมไม่ได้ แต่เราใช้ความไว้ใจ และความเชื่อใจ รวมถึงการทำงานที่เคยทำร่วมกันมา เป็นตัวชี้วัดมากกว่า หรือถ้าเราไม่รู้อะไรเลย เราก็อาจใช้แลนด์ในแต่ละประเทศ มาเป็นผู้ให้คำแนะนำกับเราได้

Khun Pan 4

ผมว่าการทำทัวร์ มีข้อผิดพลาดได้ตลอดนะ อย่างการดีเลย์ของสายการบิน ที่ทำให้ลูกค้าไม่สามารถไปเที่ยวทัวร์ได้ในตอนเช้าอีกวันได้ เอาละ แขกโวยวาย ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เชื่อไหมครับว่า ผมมีคนที่บริหารจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ดี นั่นก็คือ ไกด์ ที่เป็นเสมือนตัวแทนของบริษัท ซึ่งบริษัทจะดูดี หรือดูแย่ลง ขึ้นอยู่กับคำพูดของไกด์จริงๆ”

“เรื่องรับผิดชอบเราต้องทำอยู่แล้ว แต่จะพูดรับผิดอย่างไรให้ดูสวย หรือจะปฏิเสธอย่างไรให้ดูสวย ซึ่งไกด์คือคนเดียวที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้ดี เป็นคนที่มีทักษะการพูดเป็นเยี่ยม อย่างผมก็อาจจะสู้น้องๆ เหล่านี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และหากเราไม่มีคนเก่งๆ เหล่านี้ บริษัททัวร์ของเราก็ไม่สามารถเติบโต และก้าวเดินมาได้กว่า 20 ปีแน่นอน ส่วนการ บริหารจัดการภายในบริษัท หากว่าไปแล้วก็ต้องยกความดีความชอบให้กับน้องเจี๊ยบ และน้องโอ่ง ที่ดูแลทางด้านนี้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมมองของผม ไม่ว่าจะบริหารงานใดๆ จำเป็นต้องมีทั้งพระเดช และพระคุณควบคู่กันไป อันนี้พูดตรงๆ เวลาผมพบเห็นปัญหาอะไร ผมจะไม่เข้าชนโดยตรง จะใช้วิธีปรึกษากับน้องทั้งสองคน เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยให้น้องทั้งสองช่วยส่งต่อแนวทางการทำงานที่ถูกต้อง และตรงจุดไปยังผู้ปฏิบัติการในแต่ละฝ่าย แต่ละส่วน จะว่าไปแล้วถือเป็นโชคดีของผม เพราะน้องๆ ในบริษัททุกคนต่างก็น่ารัก และทำงานเก่งทุกคน”\

Khun Pan 5

ปรับตัวตามกระแสโลก
รางวัลมากมายที่ถูกตั้งวางอยู่ภายในบริษัท เรียกได้ว่าเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพ และมาตรฐานการบริการ ที่มีมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัททัวร์แห่งนี้ ยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง บนโลกที่นับวันมีแต่จะเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น คือ การปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ รูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป “ในแง่ของธุรกิจทุกวันนี้ เราเน้นไปที่การขายกรุ๊ปเหมามากกว่าการขายหน้าร้าน ที่มีการแข่งขันกันเยอะ รวมถึงจำนวนคนที่จะมาซื้อทัวร์เองก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเด็กที่เป็นคนรุ่นใหม่ จะนิยมไปท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ค่อยพึ่งพาบริษัททัวร์สักเท่าไร ถ้าเป็นกรุ๊ป หรือองค์กรใหญ่ เขาก็จะได้รับความสะดวกไม่ต้องจัดการเองให้ยุ่งยาก”

“ในมุมมองของผม วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว เราก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว และนั่นไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเท่านั้น เรียกว่าเกือบทุกธุรกิจบนโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งก็รวมถึงธุรกิจทัวร์ด้วย วันนี้ผม และน้องๆ ในบริษัท ก็ได้พูดคุย และปรึกษากันอยู่ตลอด โดยเบื้องต้นเราขอทำทุกอย่างในวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก แล้วคอยมองว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ซึ่งเราก็จำเป็นต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ ตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้บริษัทยังเดินหน้าต่อไปได้ ในอนาคตเราอาจจะเพิ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาเป็น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรืออะไรก็ตามเพื่อให้เข้ากับกระแสความนิยมของโลกที่เปลี่ยนไป”

Khun Pan 6

มุมมองท่องเที่ยวรูปแบบใหม่
การเปิดมุมมองการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ถือเป็นอีกแนวคิดที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทัวร์ให้สามารถอยู่รอดในโลกปัจจุบัน ซึ่งคุณปั่นก็ได้บอกเล่าถึงความประทับใจ และความชื่นชอบในมุมของตัวเองเช่นกัน “ในความคิดส่วนตัวของผมแล้วจะชอบการท่องเที่ยวในสถานที่อันซีนมากกว่า เอาง่ายๆ ถ้าบอกว่าไปนิวยอร์ก หรือไปปารีส อะไรเหล่านี้ ผมก็ไปเห็นมาเยอะแล้ว โดยส่วนตัวผมจะชอบท่องเที่ยวในแบบการไปดูประเพณี วัฒนธรรมเก่าๆ หรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนในแต่ละประเทศ เหมือนกับคนที่อยากขับรถลุยเข้าไปในป่า แต่ทั้งนี้ผมสังเกตเห็นว่าลูกค้า หรือนักท่องเที่ยวหลายคนในวันนี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ผ่านชีวิตมาเยอะ เขาเหมือนอยากใช้ชีวิตในแบบพักผ่อน อยากกินนู่นกินนี่ อยากรู้อยากเห็น หรือสัมผัสในสิ่งแปลกใหม่มากขึ้น ซึ่งตัวของผมก็เป็นแบบนั้น”

“อย่างบางครั้งเราได้ยินมาว่า อินเดีย ไม่ค่อยสะอาด ก็ทำให้อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร หรือแม้แต่วัฒนธรรมบางอย่าง เช่น โยคี เป็นอย่างไร อันนี้ก็อยากรู้อยากเห็นในเรื่องราวเหล่านี้มากกว่า แต่จะให้บอกว่าผม ชอบท่องเที่ยวประเทศที่ใดประเทศหนึ่งมากกว่า คงจะบอกไม่ได้ เพราะ ทุกประเทศต่างก็มีความสวยงามเฉพาะตัวที่ต่างกัน เปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่หากมองในแง่ของความเป็นประเทศใหม่ที่น่าท่องเที่ยว ณ วันนี้โครเอเชียเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ผมรู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัวจริงๆ ตอนที่ผมไปแรกๆ บ้านเรือนของคนที่นั่น ยังมีรูกระสุนปืน และร่องรอย ของสงครามอยู่เลย และพอไปดูป่าที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลก ก็รู้สึกประทับใจเพราะเปรียบเหมือนสวรรค์ที่อยู่บนดินเลยก็ว่าได้”

ฟังคุณปั่น เล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับภาพสถานที่ท่องเที่ยวจริงอยู่ตรงหน้า “ไม่ใช่แค่เราจะได้พบความแปลกใหม่ และเปิดโลกทัศน์ด้านการท่องเที่ยว แต่นั่นเรายังได้เห็นถึงวิถีการดำรงชีวิต ของคนในถิ่นต่างๆ ที่เราไม่เคยเห็น เรามองในสิ่งที่เราไม่มี เราได้เห็นความรู้ในแบบชาวบ้านๆ ที่เรียกว่าภูมิปัญญา ตลอดจน ศิลปะแขนงต่างๆ ที่ยากจะดูได้ในปัจจุบัน ซึ่งบางครั้งอาจมองลึกได้ไปถึงจิตใจของผู้คนในประเทศเหล่านั้นด้วย”

ปัจจุบัน เอฟวีนิว ทัวร์ มุ่งเน้นการบริการมากกว่าผลประกอบการสิ่งที่ดีๆ เราก็เลือกที่จะมอบให้กับลูกค้า คือบริษัทเรามีความชำนาญในเส้นทางยุโรป เอเชีย พร้อมทั้งศักยภาพ การมีคอนเน็กชั่นทั่วโลก ที่ทำให้เราสามารถผลิตโปรแกรมทัวร์คุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม

Khun Pan 10

เหตุการณ์ถ้ำหลวง กับการท่องเที่ยว
พูดคุยถึงการท่องเที่ยวอยู่พักใหญ่ ก็นึกถึงคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ถ้ำหลวง ที่ในอนาคตอาจจะพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของประเทศไทยนั้น ประเด็นนี้ คุณปั่นก็มีมุมมองว่ามีความเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ก็จะมีแค่นักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มเท่านั้น “นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจไปไม่ถึงเชียงราย แต่หากใครที่ไปถึงก็อาจจะไปที่นั่นก็ได้ เพราะจากประสบการณ์ในการทำทัวร์ของผม นักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามาท่องเที่ยวที่จุดจุดเดียว ขณะที่ช่วงเวลาการอยู่ในประเทศ ก็มีค่อนข้างจำกัด จริงๆ แล้วเราก็สามารถพัฒนาถ้ำหลวงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เหมือนกัน โดยเริ่มต้นจากการโปรโมตให้คนไทยในประเทศได้ไปท่องเที่ยวก่อน เพื่อให้ได้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติ และชื่นชม รวมถึงภาคภูมิใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ที่สำคัญยังทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไปพร้อมกันด้วย”

“แต่ทั้งนี้” นักร้องเพลงรักในตำนาน เอ่ยข้อแม้ขึ้น “เราจะต้องมีวิธีบริหารการจัดการสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นระบบระเบียบให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้แต่การจัดการด้านการจราจร ที่มีความสะดวกสบาย รวมถึง การทำนุบำรุงสถานที่ท่องเที่ยว ยิ่งถ้าเป็นโบราณสถานด้วยแล้ว ก็ต้องมีวิธีการดูแลอย่างดี ไม่ส่งผลกระทบ หรือก่อให้เกิดการทำลายโบราณสถาน นอกจากนี้ ควรจะโปรโมตให้คนไทยได้ร่วมตระหนักและสำนึก ในคุณค่าของโบราณสถานด้วยหัวใจจริงๆ ก่อนที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ นอกเหนือจากการทัวร์วัด และวัง อย่างที่บริษัททัวร์หลายแห่ง มักจะแนะนำในแพ็กเกจทัวร์ทั่วไป”

Khun Pan 9

พูดคุยมาพอสมควรแก่เวลา นักร้องหนุ่มใหญ่ก็สรุปบทเรียน สำคัญในการทำธุรกิจทัวร์ ณ วันที่เราเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คงต้องพูดออกมา “ผมเชื่อว่า คนทำธุรกิจทัวร์เองก็อยากที่จะทำให้ธุรกิจของเขาอยู่รอดและยืนอยู่ได้ตลอดไป แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ รวมถึงการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่แต่ละบริษัทมีอยู่ออกมาใช้ควบคู่กัน อาจจะทำให้เล็กหน่อย แล้วเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างไปจากคู่แข่ง ตลอดจนต้องรู้ด้วยว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นมีจำนวนเท่าไร เพื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผน และดำเนินธุรกิจให้ยังคงเดินหน้าได้ต่อไป” ต้องขอขอบคุณคุณลูกค้าที่ตลอด 20 ปี ไม่เคยทิ้งกัน ดูแลกันไปเรื่อยๆ ถ้านึกถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ก็ขอให้นึกถึง เอฟวีนิวทัวร์

วันนี้ คงไม่ใช่แค่ธุรกิจทัวร์อย่างเดียวที่ต้องมีการปรับตัว ให้ทัน และเปลี่ยนไปตามกระแสโลกที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทว่า ยังคงมีอีกหลากหลายธุรกิจ ที่ตกอยู่ในภาวะเดียวกันนี้ ซึ่งหากไม่ปรับตัวก็คงจะต้องปิดฉากกันไป แต่หากธุรกิจใดรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทัน ก็จะสามารถยืนหยัด เผลอๆ อาจก้าวเป็นผู้นำของวงการธุรกิจที่ทำอยู่ด้วยก็มีสิทธิ์เป็นไปได้เหมือนกัน

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0