Salzburg : The Sound of Music ซาลซ์บูร์ก เมืองแห่งดนตรีคลาสสิก

Story & Photo by : เรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทาง

Salburg_150

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music เชื่อเหลือเกินว่าคุณจะต้องชื่นชอบวิวทิวทัศน์ของสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ สวนสวย ดอกไม้หลากสี แม่น้ำไหลผ่านเมือง มีภูเขาเป็นฉากหลังที่งดงาม เหตุผลเหล่านี้ทำให้เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ถูกเลือกให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

Salburg_137

แต่บ่อยครั้งที่ซาลซ์บูร์กถูกมองเป็นเพียงแค่ทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังเมืองฮาลสตัทท์แห่งประเทศออสเตรีย หรือเพื่อข้ามแดนไปยังเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนีเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศออสเตรียแห่งนี้ มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจไม่น้อย

Salburg_011

เมืองซาลซ์บูร์กแปลตามตัวหมายถึงปราสาทเกลือ เนื่องมาจากในสมัยยุคกลางสถานที่แห่งนี้อุดมไปด้วยเหมืองเกลือ เป็นแหล่งค้าเกลือมาแต่โบราณ สมัยนั้นเกลือมีค่ามากกว่าทองคำเสียอีก จึงทำให้ประชาชนที่นี่มีความกินดีอยู่ดีเป็นคนมั่งมีของประเทศ

Salburg_163

ซาลซ์บูร์กนั้นไม่ได้มีชื่อเสียงเฉพาะเหมืองเกลือเท่านั้นแต่หากยังเป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีและคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาผู้นั้นก็คือ วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ที่เรารู้จัก และคุ้นหูเพลงของเขากันมาตั้งแต่เด็กอีกด้วย

Salburg_050

ฉันเดินทางมาซาลซ์บูร์กในช่วงเวลาที่ต้นแมกโนเลียออกดอกสีชพูอมขาวบานสะพรั่งเต็มต้น ให้ทั้งความร่มรื่มและเติมความสวยงามให้กับสวนสาธารณะหรือริมถนนทั่วมุมเมือง จึงไม่แปลกใจที่ได้เห็นชาวเมืองใส่สูทหรือชุดทำงานเต็มยศออกมานั่งผ่อนคลายใต้ร่มแมกโนเลียในสวนสวยเวลาพักเที่ยง เนื่องจากฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่เดินทางมาซาลซ์บูร์กเพื่อตามรอยภาพยนตร์ The Sound of Music ฉันจึงรีบตรงดิ่งไปชมสวนมิราเบล (Mirabell Garden)

Salburg_044

สวนสไตล์บารอคที่อยู่ในบริเวณพระราชวังเดิม มีรูปปั้นและงานศิลปะให้ชม บรรยากาศร่มรื่นแซมความโรแมนติกด้วยภาพคู่รักแผ่กระจายอยู่ทั่วสวน ความงดงามนั้นยากจะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ เพราะคงไม่สามารถสรรหาคำใดมาเปรียบเปรยให้เห็นภาพได้เท่ากับการมาเห็นด้วยตาตนเองสักครั้งหนึ่ง

Salburg_070

ออกจากสวนมิราเบลฉันเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำซาลซัค (Salzach River) ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง น้ำในแม่น้ำซาลซัคมีสีเขียวมรกตสวยงามเพราะมีเกลืออยู่มากริมแม่น้ำมีระเบียงหญ้าให้ชาวเมืองมานั่งนอนเล่นพักผ่อนใจ

Salzburg_008-1

เสียดายที่มีเวลาไม่มากพอสำหรับการล่องเรือชมวิวเมือง เดินต่อไปยังถนนเกไทรเด (Getreidegasse) บ้านเรือนที่เรียงรายอยู่บนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 – 18

Salburg_189

ปัจจุบันกลายเป็นถนนสายช้อปปิ้งที่มีร้านค้าแบรนด์เนมและร้านขายของที่ระลึกมากมาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โมสาร์ทด้วย และไม่ว่าจะเดินเหินไปซอกมุมไหนของซาลซ์บูร์ก ใบหน้าของโมสาร์ทดูเหมือนว่าจะปรากฏอยู่ทุกที่ รวมทั้งของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ กล่องช็อกโกแลต หมวก เสื้อยืด สมุดดินสอ โปสการ์ด แค่มีภาพของโมสาร์ทประทับอยู่

Salburg_074

อะไรๆ ก็ขายดีเทน้ำเทท่า เรียกได้ว่า คีตกวีเอกระดับโลกคนนี้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าประจำซาลซ์บูร์กไปแล้ว มาถึงที่นี่อย่าลืมหยิบช็อกโกแลตลูกบอลโมสาร์ท (Mozartkugeln) ที่มีแพ็กเกจรูปหน้าโมสาร์ทติดไม้ติดมือเป็นของฝาก ยี่ห้อที่ดังที่สุดก็คือยี่ห้อ Mirabell

Salburg_174

เดินต่อเข้าไปในเขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยยูเนสโก และมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบบารอคอยู่ทั่วเมือง ลอดโค้งประตูเข้าไปที่ด้านหน้าของ Salzburger Dome (Salzburg’s Cathedral) มหาวิหารประจำเมืองที่สร้างขึ้นจากความร่ำรวยจากการทำเหมืองเกลือ

Salburg_135

ลานกว้างด้านหน้ามีรถม้าจอดรอให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งรถม้าชมรอบเมือง จุดเด่นอยู่ตรงที่สถาปัตยกรรมในสไตล์บารอคและโดมคู่ที่โดดเด่น เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพลังและอำนาจของอาร์คบิชอปในซาลซ์บูร์ก ศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณของชาวเมืองแห่งนี้ในอดีตเคยถูกทำลายสะบักสะบอมหลายครั้งทั้งจากไฟไหม้และสงคราม

Salburg_131

แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ได้สวยและสง่างามยิ่งกว่าเดิมได้ทุกครั้งดังที่เห็นในปัจจุบัน เดินออกจากประตูทางออกอีกด้านของโบสถ์ไปที่คาพิเทลพลัทซ์ (Kapitelplatz) ก็จะเห็นปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg) ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขา บริเวณลานคาพิเทลพลัทซ์ล้อมรอบด้วยตึกที่สร้างในสถาปัตยกรรมเก่าแก่

Salburg_179

มีลูกกลมสีทอง (Sphaera) ที่มีรูปปั้นคนยืนอยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมือง บริเวณนี้คลาคล่ำไปด้วยชาวเมืองมานั่งเล่น ตารางหมากลุกขนาดใหญ่บนพื้นเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ชาวเมืองซาลซ์บูร์ก นิยมมาร่วมกิจกรรมด้วยกัน ทั้งยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน บรรยากาศแถวนี้จึงดูสนุกสนานคึกคัก มีชีวิตชีวา

Salburg_086

ถนนแคบๆ ในเมืองเก่าเชื่อมถึงกันและทอดยาวขึ้นไปหาปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg) ปราสาทคู่บ้านคู่เมืองที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาด้านหลังป้อมปราการเมือง (Festung Hohensalzburg) นับเป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลาง

Salburg_123

ตัวป้อมปราการตั้งสง่าโดดเด่นอยู่กลางเมือง เรียกได้ว่ามองเห็นได้จากทั่วทุกทิศในเมืองเลยทีเดียว การขึ้นไปชมปราสาทนั้นสามารถเดินขึ้นไปหรือจะขึ้นรถรางก็ได้

Salburg_116

ฉันเลือกเดินเตร็ดเตร่เลาะเนินเขาขึ้นไปหาปราสาทอันสูงสง่าแทนที่จะนั่งรถรางขึ้นไปเพื่อจะได้ชมวิวไปด้วย ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์กมีอายุเกือบพันปี และบนป้อมปราการแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของบาทหลวง คุก และค่ายทหารมาก่อน

Salburg_132

ปัจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทหารที่มีประวัติศาสตร์ของออสเตรียมากมายถูกกังขังอยู่หลังป้อมปราการแห่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ เตาผิงที่ปูด้วยกระเบื้องที่มีความทนทานมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่อยู่ในห้องทอง (Golden Room) และยังมีภาพจากคัมภีร์ไบเบิลด้วย

Salzburg_003-1

หลังจากเข้าไปเดินลัดเลาะเข้าห้องนั้นออกห้องนี้เพื่อชมห้องต่างๆ ในปราสาท ฉันเดินออกมานั่งพักที่ลานด้านนอกของร้านอาหารบนปราสาทเพื่อจิบกาแฟชมวิวฟังเสียงดนตรี ฉันค้นพบว่า ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมือง ด้านหน้าป้อมปราการสามารถเห็นภาพมุมกว้างของเมือง

Salburg_103

ทั้งโบสถ์ มหาวิหาร จัตุรัสโมสาร์ท เมืองเก่า ถนนสายช้อปปิ้ง และแม่น้ำ ส่วนด้านหลังปราสาทก็จะเป็นวิวภูเขาสูงและความงดงามทางธรรมชาติ เสียงดนตรีที่ดังช่วยขับกล่อมและแต่งเติมให้ซาลซ์บูร์กมีมนตร์ตรึงให้นักท่องเที่ยวประทับใจ

Salburg_166

ขากลับฉันเลือกนั่งรถรางลงมาเพื่อใช้สิทธิ์บัตร Salzburg Card แบบหนึ่งวันที่ซื้อมา แวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง (Salzburg Museum) ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมศิลปะและวัตถุอันทรงคุณค่า

Salburg_185

การจัดแสดงที่สวยงามตื่นตาและการให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่จัดแสดงได้ดีมากแห่งหนึ่ง ก่อนกลับฉันมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านสีเหลืองเลขที่ 9 บนถนนเกไทรเด (Getreidegasse) บ้านเกิดของศิลปินเอกของโลกอย่างโมสาร์ท (Mozarts Geburtshaus หรือ Mozart’s Birthplace)

Salburg_104

เขาเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นานกว่า 20 ปี แต่ตอนนี้ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงทุกเรื่องราวของชายคนนี้ ตั้งแต่รูปภาพไปจนถึงเครื่องดนตรีของเขา เห็นตัวเลขจำนวนเพลงที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นและรู้ว่าเขาแต่งเพลงแรกตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบ ก็ยิ่งแล้วรู้สึกทึ่ง

Salburg_056

สำหรับฉันขอจัดอันดับให้ซาลซ์บูร์กเป็นเมืองที่ติดอันดับ Top 10 ของเมืองโรแมนติกบนโลกใบนี้ ด้วยองค์ประกอบและส่วนผสมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำซาลซัคที่พาดผ่านใจกลางเมือง เทือกเขาสูงที่โอบรอบเมืองแห่งนี้ไว้ สวนสวยกลางเมืองที่เอาไว้ต้อนรับแขก

Salburg_013

เมืองเก่าที่มีกลิ่นอายสไตล์บารอคและเสียงดนตรีที่ปรุงและเติมแต่งให้ซาลซ์บูร์กมีมนตร์ตรึงให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยือน หลายครั้งที่ฉันอดคิดในใจไม่ได้ว่าซาลซ์บูร์กนี้โรแมนซ์เกินไปที่จะมาเดินเล่นคนเดียว

Salburg_040

– แนะนำให้ซื้อ Salzburg Card ที่รวมค่าเดินทางภายในเมือง รวมถึงค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ค่ารถรางขึ้นเขา ล่องเรือ และยังได้ใช้สิทธิ์ Fast Track หรือ Priority สำหรับการเข้าชมสถานที่และรถรางอีกด้วย
– การเดินทางโดยทั่วไปในซาลซ์บูร์กนั้น นอกจากเดินเท้าก็จะใช้บริการรถบัสเป็นหลัก โดยซื้อตั๋วได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติซึ่งจะมีราคาถูกกว่าซื้อตั๋วโดยสารจากคนขับรถ หากไม่มี Salzburg Card และในหนึ่งวันวางแผนที่จะใช้รถบัสมากกว่า 3 ครั้ง แนะนำให้ซื้อตั๋ววัน หรือ 24 Hours Ticket ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่า
– ซาลซ์บูร์กตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างอินส์บรูคและเวียนนา สามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถไฟ (www.oebb.at/en)
– ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ : Hohensalzburg Fortress (www.salzburg-burgen.at), Salzburger Dome (www.salzburg-dom.at)

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0