Journey Inspire โบกรถไป..เกรงใจจังเลย

Story by Sarttra Feangkasem / Photo by JourneyInspiration

แก๊งค์โบกรถ 4818

“ค่าเดินทาง” มักถูกนำมาเป็นข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ แผนการเดินทางไม่น้อยถูกล้มพับไปก็เพราะเรื่องค่าเดินทางที่แพงกว่าค่าใช้จ่ายตลอดทริปเสียอีก หรือบางครั้งสถานที่ท่องเที่ยวต้องถูกเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถเดินทางไปซึมซับได้อย่างครบถ้วนก็ด้วยเพราะเหตุผลเดียวกัน การโบกรถจึงเป็นหนึ่งในวิธีการเดินทางที่ถูกเลือกมาใช้สำหรับคนงบน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่อยู่ในวัยเรียน หรือเพิ่งสำเร็จการศึกษาใหม่ๆ

แก๊งค์โบกรถ 0913

แก๊งค์โบกรถ 0556แก๊งค์โบกรถ 0553

ชมรมมหาวิทยาลัย-ชาวบ้าน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นกลุ่มหนึ่งที่นำการโบกรถมาใช้ในการทำงาน เพราะงบในการออกสำรวจค่ายอาสาของพวกเขานั้นมีให้ใช้อย่างจำกัด การเดินทางทุกครั้งจึงเป็นไปด้วยการโบกรถของพี่น้องในชมรมฯ จากที่โบกรถเพราะความจำเป็นทางด้านงบประมาณของโครงการฯ จึงกลายมาเป็นโบกเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อหาประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้จากการเดินทางวิธีอื่น นานวันเข้าสมาชิกกากขึ้นจนถูกก่อตั้งเป็นแฟนเพจที่มีคนติดตามเป็นหลักพัน ในชื่อ “Journey Inspire : โบกรถไป..เกรงใจจังเลย”

แก๊งค์โบกรถ 0252

“การโบกรถเป็นการท่องเที่ยวที่ท้าทาย ได้เข้าถึงสถานที่แต่ละที่มากกว่าแค่การได้ไปถึง การโบกรถไปเที่ยวทำให้เจอผู้คนมากมาย ทำให้รู้ว่าคนไทยใจดีนั้นมีอยู่ทุกที่ ได้เจอเพื่อนใหม่ เพื่อนเก่า จากการโบกรถก็มี เป็นสีสันของการเดินทางที่น่าจดจำอย่างหนึ่ง เราได้เรียนรู้เส้นทางมากกว่าเดิม บางครั้งโบกไปเจอที่ๆ คาดไม่ถึง มันสอนให้เราแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากับเรื่องราวที่คาดไม่ถึง อดทน ช่วงเหลือกัน พร้อมเจอปัญหาทุกสถานการณ์ ทำให้แก๊งโบกรถฯ หลงใหลการเดินทางแบบนี้ไปแล้วค่ะ” คำบอกเล่าของนกเขียว หนึ่งในสมาชิกที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาหมาดๆ หากใครติดตามเพจ “Journey Inspire : โบกรถไป..เกรงใจจังเลย” คงจะทราบดีว่า เพจนักเดินทางนี้มีการเคลื่อนไหว ลงรูปให้แฟนเพจได้ติดตามชมอยู่เสมอ ซึ่งนั่นเกิดจากการที่พวกเขามีแอดมินนับสิบคน โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นพี่น้องจากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอีกส่วนเป็นแฟนเพจที่ขอติดตามโบกรถไปด้วย เมื่อสมาชิกมีจำนวนมาก ทริปโบกรถจึงเกิดขึ้นอย่างน้อยเดือนละครั้ง

แก๊งค์โบกรถ 0446

แก๊งค์โบกรถ 02521แก๊งค์โบกรถ 0387

เราไปกันประมาณเดือนละ 1 – 2 ครั้ง แล้วแต่โอกาสถ้าสมาชิกคนไหนว่างหรือสะดวกกันตอนไหนก็ไป บางทริปว่างไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร ไปกันเลย ไม่ต้องรอให้ครบก็ได้ค่ะ” คำพูดของนกเขียวทำให้เรารู้ว่า เหตุผลที่ทำให้มีทริปโบกรถ เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอนั้น เพราะคุณสมบัติของนักเดินทาง ในตัวของสมาชิกทุกคน คือไม่สนใจว่าใครจะว่างหรือไม่ แต่ถ้าเราว่าง นั่นถือคำตอบเมื่อถามถึงเหตุผลที่พวกเขาหลงใหลในการเดินทางด้วยวิธีโบกรถของสมาชิกนั้น คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่คือความท้าทายและประสบการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ระหว่างทาง

แก๊งค์โบกรถ 0038

การท่องเที่ยวของเรานั้นจะไม่ยึดติดกับสถานที่และเวลามากนัก จึงทำให้พบกับข้อดีหลายอย่างค่ะ อย่างแรกแน่นอนว่าการโบกรถนั้นประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ รวมถึงค่าอาหารและที่พักในบางทริปด้วย ได้เต็มอิ่มกับสถานที่ ผู้คน ชุมชน ณ จุดที่เราต้องหยุดเพื่อโบกต่อ หยุดลงตรงไหนก็หยุดทำความรู้จักกับที่ตรงนั้น ได้รู้จักคนใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ได้เห็นรอยยิ้ม น้ำใจ และความรักความหวังดีของคนไทยที่มีให้กัน ได้คุยกับเพื่อนเรามากขึ้น ทำให้รู้จักกันในอีกมุม และยิ่งถ้าเราได้เดินทางไปในช่วงที่คนส่วนใหญ่ไม่ไป เราจะได้พบอะไรที่แตกต่าง ยิ่งคนส่วนใหญ่บอกไปช่วงนี้ไม่มีอะไร เรายิ่งอยากไป” กัญ หนึ่งในสมาชิกที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิจัยในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขยายความอย่างละเอียด

แก๊งค์โบกรถ 0344

ด้วยความที่ไม่ยึดติดกับสถานที่ พวกเขาจึงเคยเปลี่ยนทริปที่วางแผนกันมาแรมเดือนด้วยเวลาเพียงสามวินาที “เราไม่ยึดติดง่ายๆ จริงๆ เรายังไงก็ได้ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง พวกเราตั้งใจจะไปเที่ยวเขาค้อกัน แต่พอโบกรถคันแรกเขาไปภูทับเบิก คันที่สอง-สามก็ยังไปภูทับเบิก พอถึงคันที่สี่เขาบอกเราว่าไปภูทับเบิก เราก็หันไปมองหน้ากัน ห้าคน สบตากันไม่ถึงสามวินาที ทุกคนกระโดดขึ้นรถไปภูทับเบิก ทั้งๆ ที่คุยวางแผนกันเป็นเดือนๆ ว่าจะไปเขาค้อ แต่สรุปว่าทริปนั้นก็ไม่มีใครผิดหวังเพราะการเปลี่ยนแผนเลยนะ การเดินทางต้องวางแผนก็จริง แต่บางครั้งก็ต้องวางมันลงแล้วอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พวกเราเชื่อเสมอว่าการพลาดบางอย่างไปมันจะทำให้เราไปเจอกับบางสิ่งที่ดีกว่า แต่สิ่งสำคัญคือทุกคนยังคงดูแล ช่วยเหลือกัน หรือสร้างเสียงหัวเราะ” เหตุการณ์ที่กัญเล่าทำให้เรื่องราวของพวกเขาดูน่าติดตามกว่าเดิมหลายเท่าตัว ถึงแม้ว่าการโบกรถจะดูเป็นการเดินทางที่พร้อมเปิดรับกับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีการเตรียมตัวอะไรกันเลย เพราะยิ่งต้องการซึมซับบรรยากาศอย่างละเมียดละไมมากเท่าไหร่ พวกเขาจึงต้องเตรียมตัวกันให้มากขึ้นเท่านั้น เพื่อที่จะไม่พลาดสิ่งสำคัญไป

แก๊งค์โบกรถ 4475แก๊งค์โบกรถ 4715

เรามีการทำการบ้านกันก่อนไปนะคะ มีการอ่านรีวิวตามเว็บไซต์ต่างๆ หาข้อมูล โทรติดต่อสถานที่ ศึกษาเส้นทาง แบ่งหน้าที่กันไป คนนี้ดูแลจัดการเรื่องการเตรียมเต็นท์ คนนี้เรื่องอาหาร คนนี้ เรื่องจองตั๋ว เช็กรอบรถ เพราะเรามักนั่งรถทัวร์กันไปช่วงขาออกจากกรุงเทพฯ คือทุกคนก็รับหน้าที่ตามความสะดวกของแต่ละคน ใครช่วยอะไรได้ก็ช่วยๆ กันไป” กัญอธิบาย เมื่อความท้าทายของการโบกรถเดินทางในประเทศที่พูดภาษาเดียวกันนั้นถูกปลดล็อกมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สถานีต่อไปของพวกเขาจึงเป็นการโบกรถที่ต่างประเทศ โดยหมุดหมายแรกคือประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 2-13 เมษายน 2558 ด้วยสมาชิก 5 คนจุดประสงค์คือการโบกรถจากเมืองฟุกุโอกะไปจนถึงโตเกียว หมุดหมายที่สองในวันที่ 25-31 กรกฎาคม 2558 ที่แชงกรีลากับสมาชิก 10 คน ส่วนแผนการใหญ่ในปี 2559 นั้นอยู่ที่หลายประเทศในแถบยุโรป ซึ่งแผนการโบกรถทั้งหมดนี้พวกเขายังไม่แน่ใจนักว่าจะทำมันได้หรือเปล่า แต่ด้วยประสบการณ์ และสัญชาตญาณนักท่องเที่ยวของสมาชิกแต่ละคนแล้ว เราเชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาไม่พลาดอย่างแน่นอน

แก๊งค์โบกรถ 0041แก๊งค์โบกรถ 0977แก๊งค์โบกรถ 05901

หลังจากฟังคำตอบโดยตรงจากปากของสมาชิกหลายคนแล้ว ทำให้สงสัยว่าปัญหาในการเดินทางด้วยการโบกรถนั้นคืออะไร แต่เมื่อถามไปแล้วคำตอบที่ได้รับกลับมานั้นทำให้หมดความสงสัย และอยากจะออกไปลองโบกรถทันที พวกเขาไม่ได้เรียกมันว่า “ปัญหา” แต่เรียกมันว่า “ประสบการณ์”

แก๊งค์โบกรถ 6749

เผยเคล็ดลับท่องเที่ยวสไตล์ โบกรถไป..เกรงใจจังเลย
“เราเชื่อว่าชีวิตคือการเดินทาง ถ้าเราศรัทธาในตัวเอง ว่าเราจะไปถึง เราก็จะไปถึง ถ้าเราเชื่อมั่น ว่าเราได้ไป เราก็จะได้ไปทุกที่ ถ้าใจถึงก็ไปถึง เงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิต การเดินทางจะทำให้คุณได้พบโลกอีกใบ ถ้าคุณอยากเจอกับโลกใบใหญ่ก็ต้องกล้าออกจากโลกใบเดิม ความสุขอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่เราจะมองมันมุมไหน รอคอยให้มันมาหา หรือออกไปค้นหาด้วยตัวเอง”
www.facebook.com/JourneyInspiration

ต้องการซื้อเล่มเดือนนี้ย้อนหลัง คลิกที่รูปปกนิตยสารได้เลย

VacationistDec14

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0