รสชาติสเปนแท้ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ Islero

รสชาติสเปนแท้ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ Islero

Story by Orawan ,Photo by blue_wall 17

บนถนนวิทยุ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ถือได้ว่าเป็นย่านใจกลางเมืองและย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีร้านอาหารมากมายหลากหลายรูปแบบ แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่ให้รสชาติเหมือนอาหารต้นตำรับ ราวกับยกพ่อครัวของเมืองนั้นมาตั้งอยู่ตรงหน้าของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนชื่นชอบอาหารสเปนแล้วล่ะก็ ร้านอิสเลโร่ (Islero) ที่อยู่บริเวณชั้น G ของ Athenne Tower น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่เลยทีเดียว

Islero11   Islero17

อิสเลโร่ (Islero) เป็นชื่อของวัวกระทิงที่สามารถโค่นมาทาดอร์ชื่อดังได้ในปี ค.ศ. 1947 ดังนั้นจะไม่แปลกใจนัก เมื่อเห็นสัญลักษณ์วัวกระทิงอยู่ตามจุดต่างๆของร้านนี้ บรรยากาศของร้านตกแต่งสไตล์สแปนนิชโมเดิร์น เน้นโทนสีที่ให้ความอบอุ่นและผ่อนคลายไปพร้อมๆกัน ด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มอ่อน สลับกับสีส้มและดำจากเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก

Islero10

ภายในแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนทาปาส บาร์ (Tapas Bar) เรียกว่า คาวา บาย อิสเลโร (CAVA by Islero) เป็นโต๊ะบาร์ยาว และเก้าอี้ไม้ทรงสูง เหมาะสำหรับสังสรรค์หลังเลิกงาน ส่วนอีกโซนเป็นส่วนร้านอาหารอิสเลโร่ สำหรับรับประทานอาหารและพูดคุยกัน สำหรับการตกแต่งที่เด่นสะดุดตาที่สุดนั้น ตั้งโดดเด่นอยู่กลางร้าน เป็นการตกแต่งในงานกึ่ง Installation กึ่ง Partitionที่สุดเก๋ไก๋ด้วยถาดไม้หลากหลายขนาดที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำให้การมาแต่ละครั้งของคุณ มีความรู้สึกถึงความแปลกใหม่ของลวดลายการแต่งร้านที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากจะให้บรรยากาศที่เรียบแต่หรูแล้ว ยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าไปในตัวอีกด้วย

Islero8

สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ การันตีความอร่อยด้วยฝีมือของเชฟระดับมิชิลินสตาร์สามดาว ของหัวหน้าเชพเปโดร (Head Chef Pedro) และเชฟชื่อดังระดับโลกเชพเอ็ดดวร์ด (Chef Eduard Bosch) ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานในร้านที่ได้รับมิชลินสตาร์มาแล้วหลายแห่งด้วยกัน ได้ร่วมกันรังสรรค์อาหารสเปนต้นตำรับ ที่แม้จะมีการปรับรสชาติเพื่อให้คุ้นลิ้นกับคนไทย แต่ก็ยังคงรสชาติอาหารและรายละเอียดครบถ้วน จากวัตถุดิบของร้านที่ส่งตรงมาจากสเปนเกือบ 80% นอกจากนี้ ทางร้านยังใช้เตา Josper ที่มีเทคโนโลยีชั้นนำเพื่อใช้ย่างเนื้อต่างๆ ให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสชั้นเลิศมาช่วยประกอบอาหาร เป็นมอบประสบการณ์ดีๆให้แก่ลูกค้า

Islero7

เริ่มด้วยออเดิฟ อาหารเรียกน้ำย่อย สไตล์ทาปาส ที่ชื่อHomemade Canned Shellfish (800 บาท) เป็นทาปาส 3 สไตล์ที่เสิร์ฟมาในกระป๋องทรงรี ประกอบด้วยหอยหลอดในน้ำซิตรัส, หอยแมลงภู่ในน้ำซีฟู้ดสต๊อกโรยด้วยปาปริก้า และกุ้งในน้ำมันมะกอกผสมกระเทียมและพริก ให้รสชาติที่แตกต่างกันแต่เวลาทานกับผสานกันได้อย่างลงตัว

Islero6

ต่อด้วย Spanish Pure Iberico on Bread with Tomato Catalan Style แฮมส่วนขาของหมูที่หั่นวางด้านบน ขนมปังกรอบนอกนุ่มในแผ่นเล็กๆ ราดด้วยซอสมะเขือเทศสไตล์สเปนอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นมื้อที่ทานได้อย่างเพลินๆ

Islero5

อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ Grilled Octopus (460 บาท) หนวดปลาหมึกยักษ์นำเข้าจากสเปน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสริ์ฟมาในน้ำสตูว์แบบ Castilian คล้ายน้ำราดหน้า ทานคู่กับเม็ดถั่วโต Giant Bean และมันชิ้นบางที่เรียกว่า Spanish lardo รวมกันแล้วให้รสชาติที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

Islero4

ส่วนเมนคอร์ส ขอแนะนำ Baked Red Snapper (680 บาท) จานนี้เป็นปลากะพงแดงอบ ราดด้วยซอสสูตรเด็ดเคล็ดลับจากสเปน อาจจะราดน้ำมันมะกอกเพิ่มอีกหน่อย ทานคู่กับมะเขือเทศ มันฝรั่งสไลด์และหอมแดงเจียวกรอบ ให้รสชาติที่หอม มัน ชวนลิ้มลองไปอีกเรื่อยๆ

Islero

และเมนูเด่นที่สุดที่ไม่ควรพลาด คือ Sucking pig “Segovia” style (3990 บาท) หมูย่างที่เนื้อนุ่มแต่หนังกรุบกรอบ ผลจากการคัดสรรหมูขนาดย่อมที่ได้รับการเลี้ยงอย่างดีทำให้ไม่มีกลิ่นสาบและไขมันน้อย ผ่านการย่างในเตา Josper ที่นำเข้าจากสเปนจนได้เมนูเด็ดจานนี้ กรอบนุ่มจนสามารถใช้จานสับหมูทั้งตัวเป็นชิ้นได้ ราดด้วยน้ำซอส รสชาติหอมหวลยวนใจเป็นอย่างมาก จะทานคู่กับไวน์จากสเปนที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งไวน์แดง, ไวน์ขาวและสปาร์กลิ้งไวน์ ไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ เชฟลงมือหั่นหมูด้วยจาน แสดงให้เห็นถึงความนุ่มและกรอบของเนื้อได้อย่างชัดเจน

Islero2

Islero3

ปิดท้ายมื้อด้วยของหวานจานพิเศษที่ทานในช่วง Holy Week ของสเปน ที่เรียกว่า Torrijas (240 บาท) เป็นขนมปังก้อนสี่เหลี่ยมพื้นผ้าที่ซึมซับรสชาติของนมอย่างชุ่มฉ่ำ ก่อนจะนำไปทอดในกะทะ เพื่อให้ผิวสัมผัสด้านนอกกรอบหวาน แต่ด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำ โรยด้วยผงอบเชยให้กลิ่นหอมกรุ่น ทานคู่กับไอศกรีมเสาวรสรสเปรี้ยวนิด ๆ เป็นความรู้สึกสดชื่นอย่างละมุนละไม ปิดท้ายมื้ออย่างสมบูรณ์แบบ

หากต้องการสัมผัสรสชาติอาหารสเปนแบบต้นตำรับดังเดิมเช่นนี้ เชิญที่ร้านอิสเลโร่ ได้ทุกวัน

Islero อิสเลโร่
ชั้น G ของอาคาร Athenee Tower หลังโรงแรม Plaza Athenee Bangkok ถนนวิทยุ
เปิดทุกวัน สำหรับมื้อกลางวัน เวลา 11.00 -14.00 น.และสำหรับมื้อเย็น เวลา 17.00 – 24.00 น. (last order เวลา 23.30 น.)
สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์โทร 02-168-8100
www.facebook.com/IsleroBangkok และ www.islerobangkok.com.

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0